xs
xsm
sm
md
lg

กำนันดัง อ.น้ำโสมแจ้งจับเจ้าอาวาสวัดดังยักยอกเงินวัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวบ้านต.นางัว อ. น้ำโสม จ.อุดรธานี เข้าแจ้งความสภ.น้ำโสมให้ดำเนินคดีเจ้าอาวาสวัดโคเขตตาราม ข้อหายักยอกทรัพย์
อุดรธานี - กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.นางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี พร้อมชาวบ้านร่วม 100 คน บุก สภ.น้ำโสม แจ้งความจับเจ้าอาวาสวัดดัง ข้อหาฉ้อโกงประชาชนและยักยอกทรัพย์ เหตุไม่นำเงินทำบุญเข้าบัญชีวัด ด้านเจ้าอาวาสปฏิเสธรอพระผู้ใหญ่ตั้งคณะกรรมการสอบ

วันนี้ (17 มี.ค.) นายวิชัย โอระชา อายุ 49 ปี กำนันตำบลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี นายมานะ ฝ่ายจารี ผู้ใหญ่บ้านฝ่ายหมู่ 2 บ้านเจริญชัย ต.นางัว นายนิพนธ์ ทรัพย์เจริญพันธ์ กรรมการวัด และพระมหาก้องไพร สาคโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำผาแซง รองเจ้าคณะอำเภอน้ำโสม เข้าพบ พ.ต.ท.สุพรรณ ระภากุล รอง ผกก.สอบสืบชำนาญการพิเศษ สภ.น้ำโสม เพื่อแจ้งความร้องทุกข์

กรณีพระครูพิสิทธิ์ ปริปุณโณ เจ้าอาวาสวัดโคเขตตาราม อ.น้ำโสม พร้อมพวกได้ทำใบฎีกาทอดผ้าป่าสามัคคี โดยนำชื่อพวกตนไปพิมพ์ใส่โดยไม่บอกกล่าว มีข้อความว่าขอเชิญร่วมการกุศลเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนบูรณะศาลาการเปรียญและก่อสร้างกุฏิสงฆ์ ทอดถวายเมื่อวันที่ 13 เดือนกุมภาพันธ์ 2557 เวลา 11.00 น. ณ ศาลาการเปรียญ วัดโคเขตตาราม อ.น้ำโสม ได้เงินทอดถวาย 92,584 บาท แต่เจ้าอาวาสไม่ยอมเอาเงินทำบุญเข้าบัญชีวัด กลับเอาเก็บไว้เอง

ซึ่งภายหลังจากแจ้งความตำรวจได้ออกหมายเรียกพระครูพิสิทธิ์ ปริปุณุโณ ให้เดินทางมาพบ พ.ต.ท.สุพรรณ โดยมีผู้เสียหายทั้งหมดและชาวบ้านจำนวนหนึ่งมาร่วมรับฟัง

นายวิชัยเปิดเผยว่า พระรูปนี้ทำผิดมาหลายครั้งแล้ว เช่น การขายกุฏิเก่าได้เงิน 45,000 บาทเมื่อปี 2556 ก็ไม่ยอมนำเงินเข้าบัญชีวัด เงินออมทอดกฐินของปี 2556 จำนวน 122,920 บาทไม่ยอมฝากเข้าบัญชีวัด และเงินผ้าป่าที่มีข้อพิพาทจนแจ้งความในวันนี้จำนวน 92,584 บาท ก็ไม่ยอมเข้าบัญชีวัด

ด้านพระครูพิสิทธิ์ ปริปุณโณ ให้ปากคำต่อตำรวจว่า เงินทำบุญทั้ง 2 ครั้ง คือ 122,920 บาท ปี 2556 กับเงินทอดผ้าป่าล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 92,584 บาท ตนเก็บไว้จริงเพราะไม่เชื่อใจในบัญชีวัด

ทั้งนี้ นายวิชัยและกรรมการวัดโคเขตตารามเสนอว่ายินดีถอนแจ้งความแล้วยุติเรื่องต่างๆ โดยให้ฝากเข้าบัญชีวัด ให้ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดโคเขตตาราม และไปอยู่ที่อื่น

ด้านพระครูพิสิทธิ์ ปุริปุณโณ ปฏิเสธและไม่ตกลงตามข้อเสนอกำนัน และกรรมการทุกฝ่ายเสนอให้ จากนั้นได้นำเรื่องนี้ไปถวายพระชั้นผู้ใหญ่วินิจฉัย โดยให้ตั้งองค์คณะมาสอบสวนและสอบวินัยสงฆ์ เมื่อได้ผลอย่างไรจึงจะมาดำเนินคดีตามกฎหมายอีกครั้ง โดยการเจรจาใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ทั้งสองฝ่ายไม่มีข้อยุติ จึงแยกย้ายกลับ และจะกลับมาอีกครั้งเมื่อเสร็จการสอบวินัยทางสงฆ์ พร้อมให้องค์คณะพระชั้นผู้ใหญ่วินิจฉัยโทษต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น