ลำปาง - “พลายนาคา” ลูกช้างน้อยวัย 1 ปี 2 เดือน 13 วัน สิ้นลมแล้วในวันช้างไทย หลังติดเชื้อไวรัส ขณะที่มูลนิธิเพื่อนช้างเจาะเลือดช้างน้อยส่งตรวจอีก 2 เชือก
สายวันนี้ (14 มี.ค.) น.ส.โซไรดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้างลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ นำดอกกุหลาบสีขาวไปวางไว้ข้างร่างของพลายนาคา ช้างน้อยวัย 1 ปี 2 เดือน 13 วัน ที่ล้มลงเมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันช้างไทย (13 มี.ค.) ภายในเรือนนอนมูลนิธิ เนื่องจากติดเชื้อไวรัส และมูลนิธิได้ใช้ผ้าใบปิดล้อมโดยรอบโรงเรือน และใช้สแลนปกคลุมร่างของช้างน้อยไว้ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
น.ส.โซไลดาเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกช้างมีอาการไม่สบาย เมื่อสัตวแพทย์ได้ให้ยาอาการก็ดีขึ้น และสามารถวิ่งเล่นได้ตามปกติ แต่เนื่องจากในช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งเช้าวานนี้ (13 มี.ค.) ลูกช้างมีอาการซึม สัตวแพทย์จึงให้ยาต้านไวรัสทุก 4 ชั่วโมง พร้อมกับให้ยาปฏิชีวนะควบคู่ไปด้วย และเมื่อเวลาเย็นลูกช้างเริ่มมีอาการขากระตุก สัตวแพทย์จึงให้ยากันช็อก จนกระทั่งช่วงค่ำลูกช้างเริ่มอ่อนแรงและล้มตัวลงนอน และจากไปอย่างสงบเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.เศษคืนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ทางมูลนิธิฯ ได้ทำการเจาะเลือดของพลายนาคา และพลายดานเต้ ช้างแคระวัย 4 ขวบ และพังน้องพลอยวัยขวบเศษ ซึ่งเป็นเพื่อนเล่นกับพลายดานเต้ ส่งตรวจเพื่อหาเชื้อไวรัสด้วยเนื่องจากเกรงว่าเชื้อจะติดต่อถึงกัน ซึ่งผลการตรวจเลือดจะต้องรออีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ที่ทำได้ขณะนี้คือต้องคอยดูแลช้างเล็กอย่างใกล้ชิด ส่วนซากของพลายนาคาขณะนี้ต้องรอเจ้าของช้างเพื่อตกลงกันว่าจะฝังไว้ที่มูลนิธิหรือไม่อย่างไร
สำหรับพลายนาคา เป็นลูกของแม่ช้างพังจำปา อายุ 21 ปี ที่ตกลูกเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2556 ปัจจุบันอายุได้ 1 ปี 2 เดือน 13 วัน เจ้าของช้าง คือ นายพิสิทธิ์ มูลละ อายุ 30 ปี ชาวบ้าน ต.แม่ต้าน อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ได้นำมาให้ทางมูลนิธิช่วยเหลือ เพราะแม่ช้างพยายามจะฆ่าลูก โดยทางสัตวแพทย์พยายามทดลองนำลูกช้างเข้ามาหาแม่หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถให้ลูกช้างดื่มนมแม่ช้างได้ ทางเจ้าของจึงให้อยู่ในความดูแลของมูลนิธิ ซึ่งทางมูลนิธิต้องเลี้ยงด้วยนมแพะมาโดยตลอด และทราบดีว่าหากลูกช้างไม่ได้ดื่มนมน้ำเหลืองของแม่ช้างตั้งแต่เกิดจะทำให้ลูกช้างติดเชื้อไวรัสได้ง่าย และจะมีอายุสั้นทุกเชือกเนื่องจากจะไม่มีภูมิต้านทานโรค