ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ศูนย์วิจัยข้าวล้านนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จับมือสภาเกษตรกรแห่งชาติ ลงนามความร่วมมือทางวิชาการและบริการชุมชนด้านข้าว หวังใช้งานวิจัยช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตและปรับปรุงคุณภาพข้าว พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชาวนาไทย อนาคตเล็งตั้ง “มหาวิทยาลัยชาวนา”
วันนี้ (14 มี.ค. 57) ที่สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์ ดร.ศักดิ์ดา จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวล้านนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและบริการชุมชนด้านข้าว ระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยศูนย์วิจัยข้าวล้านนากับสภาเกษตรกรแห่งชาติ มีผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้บริหารสภาเกษตรกรแห่งชาติ และสภาเกษตรกร 14 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมเป็นสักขีพยาน
โดยข้อตกลงความร่วมมือนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการผลิตข้าวและบริการชุมชน ตลอดจนการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าข้าว โดยพัฒนาศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนในลักษณะของการวิจัยและพัฒนาการสีข้าวที่มีประสิทธิภาพ ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีสู่ชุมชน รวมทั้งการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีการทำนาตามวิถีชีวิตดั้งเดิมของท้องถิ่นภาคเหนือ
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้เป็นการแสวงหาความร่วมมือในการพัฒนาทางวิชาการที่จะนำไปสู่การบริการชุมชนโดยมีการนำองค์ความรู้ผลงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านข้าว
รวมทั้งเครื่องมือสิ่งประดิษฐ์ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถ่ายทอดสู่เกษตรกรเพื่อปรับปรุงและเพิ่มศักยภาพการผลิตและเพิ่มคุณภาพข้าวให้ดีขึ้น ตลอดจนการแปรรูปผลิตภัณฑ์ข้าว ซึ่งจะเพิ่มมาตรฐานการแข่งขันในตลาดโลกและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวของประเทศไทยด้วย
ด้านประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการพัฒนาข้าว และชาวนาให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งการรักษาภูมิปัญญาและพันธุ์ข้าวดั้งเดิมเอาไว้ โดยที่ทางศูนย์วิจัยข้าวล้านนา มีความรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ ที่จะนำมาถ่ายทอดสู่เกษตรกรชาวนาเพื่อร่วมพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาควบคู่กันไป ทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน พร้อมกับเกิดการพัฒนาและรักษาองค์ความรู้ดั้งเดิมเอาไว้ด้วย ซึ่งในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่อาจจะขยายความร่วมมือไปถึงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยชาวนาขึ้นมา เพื่อผลิตชาวนาที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพปัจจุบันได้ดี
สำหรับกรณีปัญหาโครงการรับจำนำข้าวนั้น นายประพัฒน์กล่าวว่า เวลานี้ไม่ขอวิจารณ์หรือแสดงความเห็น แต่พร้อมที่จะมีการเสนอข้อคิดเห็นและแนวทางที่ดีกว่าโครงการรับจำนำข้าวเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่
