กาญจนบุรี - เสี่ยร้านทองเมืองสุพรรณบุรี ไหวพริบเยี่ยม เจอแก๊งเลียนแบบเสียงนักการเมืองชื่อดังโทร.สั่งซื้อทองคำหนัก 250 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท แจ้งตำรวจซ้อนแผนจับกุมรวบได้ 1 ส่วนหัวหน้าแก๊ง “จ่าโก้” และ “จ่ามี” พร้อมพวกที่คอยคุ้มกันหลบหนีไปได้ ผู้ต้องหาสารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุด ก่อนถูกจับหลอกซื้อทองน้ำหนัก 150 บาท มูลค่า 2,992,000 บาท จากร้านทองชื่อดังมาแล้ว พบประวัติชั่วอื้อ เตรียมส่งชุดสืบสวนไล่ล่าลากคอยัดคุก
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (12 มี.ค.) พ.ต.อ.อนุสรณ์ วนาปกรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากนายเกียรติศักดิ์ สุวรรณจักรศรี เจ้าของห้างทองสุพรรณบุรีว่า มีคนโทรศัพท์มาหาสำเนียงเสียงคล้ายนักการเมืองชื่อดัง และอ้างว่าเป็น นายจองชัย เที่ยงธรรม อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย และบอกว่าจะขอสั่งซื้อทองคำน้ำหนัก 250 บาท เป็นเงินจำนวน 5,200,000 บาท คาดว่าจะเป็นการเลียนแบบเสียง
หลังจากได้รับแจ้งจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิต ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ร่วมกับ พ.ต.ท.เสกสิทธิ์ จันทร พ.ต.ท.สว่าง แป้นสุรรณ และ พ.ต.ต.รัชพล กิตติคุณชนก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เดินทางไปพบ และร่วมกันวางแผนจับกุม เนื่องจากบุคคลดังกล่าวได้มีการนัดให้เจ้าของร้านนำทองคำไปซื้อขายกันที่บริเวณริมถนนสายสุพรรณบุรี-ชัยนาท เขตตำบลสนามชัย
เจ้าหน้าที่จึงให้นายเกียรติศักดิ์ โทรศัพท์ไปหาเพื่อตกลงตามที่นัดเอาไว้ พร้อมทั้งนำทองคำแท่งและทองรูปพรรณ น้ำหนักรวมกัน 250 บาท ใส่กล่อง จากนั้นให้ขับรถยนต์ไปยังจุดนัดพบ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบแอบซ่อนตัวอยู่ภายในรถ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถตามไปห่างๆ เพื่อไม่ให้มีพิรุธ โดยบุคคลดังกล่าวจะขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขน 4111 เชียงใหม่ จอดรออยู่ริมถนน เมื่อไปถึงพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดรออยู่แล้วโดยมีชายสูงอายุมาเพียงคนเดียว
จากนั้น นายเกียรติศักดิ์ จึงหิ้วกล่องบรรจุทองคำลงจากรถแล้วเดินไปหา เมื่อชายคนดังกล่าวเห็นจึงเปิดประตูรถลงมาเพื่อที่จะมารับทอง ขณะที่บุคคลดังกล่าวเผลอเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามมา และเจ้าหน้าที่ที่แอบอยู่บนรถจึงรีบกรูกันเข้าคุมตัว แต่บุคคลดังกล่าวพยายามจะวิ่งขึ้นรถเพื่อขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถคุมตัวเอาไว้ได้ จากนั้นจึงทำการตรวจค้นภายในรถของคนร้าย
จากการตรวจค้นพบทองคำแท่ง 4 แท่ง น้ำหนัก 40 บาท สร้อยคอทองคำ 3 เส้น น้ำหนัก 17 บาท พระสมเด็จวัดระฆังเลี่ยมทอง 1 องค์ พระกริ่ง 1 องค์ แหวนทองคำหนัก 1 บาท 1 วง สร้อยประคำเหล็กไหล 1 เส้น และนามบัตรอีกหลายใบ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวบุคคลดังกล่าวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ตรวจสอบที่มา ทราบชื่อต่อมาคือ นายพงศ์พัฒน์ โยธี หรือตึ๋ง วัดพระธาตุ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168/1 หมู่ 1 ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
นายพงศ์พัฒน์ ให้การอ้างว่า ตนเป็นลูกน้องจ่าโก้ และจ่าแมน นครสวรรค์ มีเพื่อนร่วมแก๊งทั้งหมด 6 คน ก่อนลงมือจ่าโก้ จะเป็นผู้วางแผนการ และโทรศัพท์ไปตามร้านทองต่างๆ โดยจะเลียนแบบเสียงของนักการเมืองที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ และอ้างกับเจ้าของร้านทองที่รับสายโทรศัพท์ว่าจะซื้อทองไปแจกให้แก่หัวคะแนน ให้นำทองที่สั่งซื้อไปวางไว้ตามจุดต่างๆ เช่น ใต้ต้นไม้ริมทาง หรือข้างถนน โดยจะส่งลูกน้องไปรับ
เมื่อเจ้าของร้านหลงเชื่อ และเกิดความเกรงใจนักการเมืองคนที่ถูกแอบอ้าง เมื่อเจ้าของร้านทองทำตาม ตนจะเป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าวมารับทองคำที่วางไว้ โดยจ่าโก้ และจ่าแมน พร้อมลูกน้องอีก 4 คน จะใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน 198 นครสวรรค์ ตามประกบมาเพื่อคอยคุ้มกันให้ เมื่อแผนการทำสำเร็จก็จะนำทองไปแบ่งกันมากน้อยตามหน้าที่
นายพงศ์พัฒน์ ยังให้การอีกว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา จ่าโก้ ได้เลียนแบบเสียงของนายประภัตร โพธสุธน โทรศัพท์ไปหาเจ้าของร้านทองสวัสดี โดยบอกจะซื้อทองน้ำหนัก 150 บาท มูลค่า 2,992,000 บาท และทางเจ้าของร้านหลงเชื่อจึงนำทองไปวางไว้สถานที่แห่งหนึ่ง หลังได้ทองก็นำไปแบ่งกันทำให้ทุกคนเกิดย่ามใจวางแผนลงมือก่อเหตุอีก แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนจับกุมตัวได้ ส่วนจ่าโก้ กับพวกสามารถหลบหนีไปได้
พ.ต.อ.อนุสรณ์ วนาปกรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า สำหรับจ่าโก้ และจ่าแมน อดีตรับข้าราชการทหารที่ค่ายจิระประวัติ จ.นครสวรรค์ และเคยร่วมงานกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวมาก่อน เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับในข้อหาฉ้อโกง ศาลตัดสินจำคุก 4 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ 1 ปี
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมอย่างละเอียด พบว่า ทั้งหมดมีคดีติดตัวอยู่ถึง 43 คดี และหลังจากพ้นโทษออกมาได้ปีกว่า จึงมารวมตัวกันเพื่อร่วมงานกันอีกครั้งหนึ่ง และสามารถทำงานสำเร็จ 1 ครั้ง ได้ทรัพย์ไปเป็นจำนวนมาก คนร้ายแก๊งนี้มีความเชี่ยวชาญในการเลียนแบบเสียงของนักการเมืองชื่อดังเป็นอย่างมาก โดยทั้งหมดจะตระเวนไปทำงานทั่วประเทศ และจะเลือกเฉพาะเหยื่อที่มีฐาน ะและมีความคุ้นเคยกับนักการเมืองในพื้นที่ ทำให้เหยื่อเกรงใจจึงไม่กล้าที่จะโทร.ไปสอบถามความจริงจากนักการเมืองคนดังกล่าว สุดท้ายก็กลายเป็นเหยื่อ และเสียทรัพย์สินให้แก่แก๊งนี้เป็นจำนวนมาก
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวเพื่อติดตามจับกุมจ่าโก้ และจ่าแมน พร้อมพวกที่ยังหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และฝากเตือนไปยังประชาชนด้วยว่า หากพบมีบุคคลที่ไม่รู้จักโทรศัพท์ไปหา และเลียนแบบนักการเมือง หรือบุคคลที่ท่านเกรงใจ ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นแก๊งดังกล่าว ขอให้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบด้วย