นครศรีธรรมราช - เกิดเหตุคนร้ายซุมยิง “เสือวัน ดอนตะโก” เสียชีวิตหน้าบ้านพัก หลังเพิ่งพ้นโทษออกมาเพียง 2 ปี เจ้าหน้าที่คาดเป็นการล้างแค้นของคู่อริเก่า ขณะที่คนในบ้านใช้อาวุธปืนยิงรถคนร้าย แต่หลบหนีไปได้
วันนี้ (4 มี.ค.) พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้รับรายงานคดีอุกฉกรรจ์จาก พ.ต.อ.สุเทพ ก่อสกุล ผกก.สภ.ท่าศาลา โดยคนร้ายก่อเหตุในลักษณะใช้อาวุธปืนติดลำกล้อง แบบซุ่มยิงก่อเหตุในพื้นที่รับผิดชอบ โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา โดย พ.ต.ต.นครินทร์ มุกรินทร์ละไมมาศ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลท่าศาลา ว่า มีผู้ถูกยิงมาเสียชีวิต จึงเข้าทำการสอบสวน พบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายสมพร พันธรักษ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/8 ม.6 ต.ดอนตะโก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หรือที่รู้จักในสมญา “เสือวัน ดอนตะโก” สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณหน้าอก และต้นแขนซ้าย
เบื้องต้นญาติได้ระบุว่า นายสมพร พันธรักษ์ ผู้ตายถูกยิงมาจากบริเวณหน้าบ้านพักของตัวเอง เลขที่ 121/8 ม.6 ต.ดอนตะโก ซึ่งอยู่ข้างวัดไทรขาม ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดสืบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน พบแต่เพียงกองเลือดกองใหญ่
นางมณฑา พันธรักษ์ อายุ 55 ปี ภรรยาของผู้ตาย ปัจจุบันเป็นสมาชิก อบต.ม.6 ต.ดอนตะโก ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ นายสมพร สามีกำลังนั่งเล่นพักผ่อนบริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน เห็นรถคนร้ายเป็นรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนแต่จำไม่ได้ จอดอยู่บนถนนสายดอนตะโก-ตลาดอังคาร ซึ่งอยู่ห่างจากหน้าบ้านไปราว 100 เมตร สังเกตเห็นว่าตอนหลังมีการลดกระจก และส่องปืนยาวออกมายิงเข้าใส่ นายสมพร จนฟุบลง ขณะที่ญาติในบ้านได้หยิบเอาอาวุธปืนไล่ยิงรถของคนร้าย แต่คนร้ายหลบหนีไปได้
ขณะที่ พ.ต.อ.สุเทพ ก่อสกุล ผกก.สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเคยเป็นผู้ต้องหาหลายคดี จนได้ฉายาในวงการตำรวจคือ “เสือวัน ดอนตะโก” เคยก่อคดีร้ายแรงมาแล้วหลายคดี ก่อนถูกลอบยิงพบว่าเพิ่งพ้นโทษในคดีฆ่า และปล้นฆ่ามาได้ประมาณ 2 ปี นายสมพร กลับมาอาศัยอยู่ที่บ้าน
“พบว่าซึ่งหลังจากนายสมพร หรือ “เสือวัน” ผู้ตายพ้นโทษมาแล้ว และกลับมาอยู่บ้านจะระมัดระวังตัวตลอด เนื่องจากมีคู่อริอยู่เป็นจำนวนมาก เกรงว่าคู่อริเก่าๆ ในอดีตจะตามยิงล้างแค้นได้ ส่วนสาเหตุนั้นน่าเชื่อว่าจากแค้นเก่า ขณะที่อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นสันนิษฐานว่าเป็นอาวุธปืนยาวขนาด .22 หรือลูกกรดติดลำกล้องเล็ง ซึ่งจะได้สืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว” ผกก.สภ.ท่าศาลาระบุ