ประจวบคีรีขันธ์ - สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นำคณะ จนท.นักดำน้ำจากศูนย์นวัตกรรมกรมอุทยานแห่งชาติ และพื้นที่คุ้มครองทางทะเล ภูเก็ต และชุมพรกว่า 20 นาย พร้อมพนักงานของบ้านมะพร้าว เกาะทะลุ ร่วมดำน้ำตัดอวนที่ปกคลุมแนวปะการังโดยรอบเกาะทะลุ ประจวบคีรีขันธ์ ชี้หากปล่อยทิ้งไว้นานจะส่งผลให้แนวปะการังเสียหาย และตาย เผยขณะนี้กรมอุทยานฯ อยู่ระหว่างเตรียมจัดตั้งพื้นที่แนวเกาะทะลุบางส่วนขึ้นเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีกแห่ง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติแทนการใช้ประโยชน์เพียงอย่างเดียว
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่บริเวณรอบแนวเกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้นำคณะเจ้าหน้าที่นักดำน้ำจากศูนย์นวัตกรรมกรมอุทยานแห่งชาติ และพื้นที่คุ้มครองทางทะเล จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดชุมพรกว่า 20 คน พร้อมผู้ประกอบการท่องเที่ยวบ้านมะพร้าว เกาะทะลุ รีสอร์ต ช่วยกันดำน้ำสำรวจบริเวณโดยรอบเกาะทะลุ ซึ่งมีแนวปะการังที่ยังคงความสมบูรณ์เป็นจำนวนมาก และเป็นที่อยู่อาศัย และเลี้ยงตัววัยอ่อนของสัตว์น้ำนานาชนิด
นายวัฒนา กล่าวว่า ในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวพากันมาเที่ยวชมดำน้ำดูปะการังเป็นจำนวนมาก และพบว่าบริเวณแนวปะการังบริเวณโดยรอบดังกล่าว เริ่มเสียหายจากการที่มีชาวประมงพาณิชย์บางส่วนได้เข้ามาลักลอบทำการประมงบริเวณแนวปะการัง จึงส่งผลให้มีปะการังบางส่วนเริ่มตายลง เนื่องจากถูกอวนของชาวประมงที่นำไปวางทำการประมง ติดปกคลุมแนวปะการังซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต และชาวประมงไม่ได้กู้กลับขึ้นมาทั้งหมดจึงส่งผลกระทบต่อแนวปะการังบางส่วน
ทางเจ้าหน้าที่ฯ นักดำน้ำจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมผู้ประกอบการท่องเที่ยวบนเกาะทะลุ จึงต้องดำลงไปช่วยกันตัดอวนที่ปกคลุมแนวปะการังหลายจุด โดยที่แต่ละจุดมีความยาวของอวนที่ปกคลุมแนวปะการังเป็นความยาว 5-10 เมตรขึ้นไปก็มี พร้อมกันนี้ ช่วยกันเก็บเศษขยะใต้ทะเลประเภทขวดเอากลับขึ้นมาทิ้งบนฝั่ง
ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กล่าอีกว่า เพื่อเป็นการอนุรักษ์แนวปะการัง ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตบริเวณโดยรอบไม่ให้ได้รับความเสียหาย หรือตายลง เนื่องจากหากถูกปกคลุมด้วยอวนที่ทำการประมงเป็นระยะเวลานานก็จะทำให้แนวปะรัง ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตได้รับความเสียหาย และตายในเวลาต่อมาได้
นอกจากนั้น จากการที่เจ้าหน้าที่นักดำน้ำสำรวจแนวปะการังดังกล่าวโดยรอบเกาะทะลุ ยังไม่พบว่าเกิดปรากฏการณ์ฟอกขาวในช่วงนี้แต่อย่างใด ซึ่งบริเวณเกาะทะลุแห่งนี้เมื่อหลายปีที่ผ่านมาเคยเกิดปรากฏการณ์ฟอกขาวมาแล้วครั้งหนึ่ง และได้เริ่มฟื้นคืนสภาพกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
นายวัฒนา กล่าวต่ออีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ฯ นักดำน้ำได้ลงพื้นที่สำรวจแนวปะการัง โดยรอบเกาะทะลุมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสำรวจข้อมูลความหลากหลายทางทะเล และทางบก เพื่อในอนาคตทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะได้เตรียมประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลต่อไป หากกระบวนการขั้นตอนต่างๆ รวมไปถึงการรับฟังเสียงจากประชาชน และหน่วยงานข้างเคียงดำเนินการเสร็จสิ้นลง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล แทนการใช้ประโยชน์เพียงอย่างเดียว