ศูนย์ข่าวศรีราชา - ธ.ก.ส.สระแก้ว เปิดโครงการ “กองทุนช่วยเหลือชาวนา” พร้อมรับมอบเงินบริจาค และเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ทั้งจากภาครัฐ และเอกชน หวังบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57
วันนี้ (7 มี.ค.) นายชัยภัทร หิรัณยเลขา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดโครงการ “กองทุนช่วยเหลือชาวนา” และยังเป็นตัวแทนรับมอบเงินบริจาค และเงินสมทบทุนเข้าโครงการกองทุนช่วยเหลือชาวนา โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน พร้อมด้วยลูกค้า ธ.ก.ส. พนักงาน ธ.ก.ส.ทุกสาขาในสังกัด สำนักงานจังหวัดสระแก้ว ร่วมบริจาคอย่างคับคั่ง
ด้านนายบุรฉัตร บุญประกอบ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า กองทุนช่วยเหลือชาวนาเป็นกองทุนที่ธนาคารจัดตั้งขึ้นมาเพื่อรับเงินบริจาค และเงินสมทบจากบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ส่วนราชการ และองค์กรของรัฐที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือชาวนาตามโครงการ โดยกองทุนจะจัดสรรเงินให้ ธ.ก.ส.สาขา เพื่อจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรตามมูลค่าข้าวเปลือกในใบประทวนตามเงื่อนไขของกองทุนฯ
คาดว่าเกษตรกรจะได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยกว่า 200,000 ราย ก่อให้เกิดการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมให้เกิดความเอื้ออาทร และสมานฉันท์บนหลักการเกื้อกูล และแบ่งปันซึ่งกันและกัน
โดยการบริหารจัดการกองทุนฯ แยกออกจากระบบปกติของธนาคาร ดำเนินการภายใต้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ไม่เกิน 7 คน มีผู้จัดการ ธ.ก.ส. เป็นประธาน มีการจัดทำบัญชีตามมาตรฐานสากล รายงานผลการดำเนินงาน และสถานะกองทุนฯ ให้แก่สาธารณชนได้รับทราบ โดยผู้ประสงค์จะร่วมบริจาค หรือสมทบกองทุนสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ คือ
1.บริจาคเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา (เงินบริจาค) เลขที่บัญชี 0200 - 3 - 3477 - 582 ธ.ก.ส. สาขาบางเขน โดยธนาคารยกเว้นค่าธรรมเนียมการฝากเงินต่างสำนักงาน (กรณีโอนเงิน ATM ยกเว้นค่าธรรมเนียมเฉพาะบัตร ATM ธ.ก.ส.เท่านั้น)
2.สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา (ชนิดคืนต้น ไม่มีผลตอบแทน) ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป (ได้รับใบสมทบกองทุนฯ เพื่อเป็นหลักฐานในการขอรับเงินคืนเมื่อสิ้นสุดโครงการ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 โดยกองทุนฯ ขอสงวนสิทธิในการคืนเงินสมทบก่อนกำหนด)
3.สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา (ชนิดคืนต้น และมีผลตอบแทน) ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป (ได้รับใบสมทบกองทุนฯ เพื่อเป็นหลักฐานในการขอรับเงินคืนเมื่อสิ้นสุดโครงการ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 โดยกองทุนฯ ขอสงวนสิทธิในการคืนเงินสมทบก่อนกำหนด)
นายบุรฉัตร ยังกล่าวอีกว่า เงินที่ได้รับการบริจาค และสมทบในวันนี้ สำนักงาน ธ.ก.ส.สระแก้ว จะโอนไปยังบัญชีกองทุนช่วยเหลือชาวนา ณ ธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ บางเขน กรุงเทพฯ ตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค และสมทบ และหากท่านใดมีความประสงค์จะช่วยเหลือชาวนา สามารถร่วมบริจาค และสมทบทุนกองทุนช่วยเหลือชาวนาเพิ่มเติม ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ
วันนี้ (7 มี.ค.) นายชัยภัทร หิรัณยเลขา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดโครงการ “กองทุนช่วยเหลือชาวนา” และยังเป็นตัวแทนรับมอบเงินบริจาค และเงินสมทบทุนเข้าโครงการกองทุนช่วยเหลือชาวนา โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน พร้อมด้วยลูกค้า ธ.ก.ส. พนักงาน ธ.ก.ส.ทุกสาขาในสังกัด สำนักงานจังหวัดสระแก้ว ร่วมบริจาคอย่างคับคั่ง
ด้านนายบุรฉัตร บุญประกอบ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า กองทุนช่วยเหลือชาวนาเป็นกองทุนที่ธนาคารจัดตั้งขึ้นมาเพื่อรับเงินบริจาค และเงินสมทบจากบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ส่วนราชการ และองค์กรของรัฐที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือชาวนาตามโครงการ โดยกองทุนจะจัดสรรเงินให้ ธ.ก.ส.สาขา เพื่อจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรตามมูลค่าข้าวเปลือกในใบประทวนตามเงื่อนไขของกองทุนฯ
คาดว่าเกษตรกรจะได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยกว่า 200,000 ราย ก่อให้เกิดการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมให้เกิดความเอื้ออาทร และสมานฉันท์บนหลักการเกื้อกูล และแบ่งปันซึ่งกันและกัน
โดยการบริหารจัดการกองทุนฯ แยกออกจากระบบปกติของธนาคาร ดำเนินการภายใต้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ไม่เกิน 7 คน มีผู้จัดการ ธ.ก.ส. เป็นประธาน มีการจัดทำบัญชีตามมาตรฐานสากล รายงานผลการดำเนินงาน และสถานะกองทุนฯ ให้แก่สาธารณชนได้รับทราบ โดยผู้ประสงค์จะร่วมบริจาค หรือสมทบกองทุนสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ คือ
1.บริจาคเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา (เงินบริจาค) เลขที่บัญชี 0200 - 3 - 3477 - 582 ธ.ก.ส. สาขาบางเขน โดยธนาคารยกเว้นค่าธรรมเนียมการฝากเงินต่างสำนักงาน (กรณีโอนเงิน ATM ยกเว้นค่าธรรมเนียมเฉพาะบัตร ATM ธ.ก.ส.เท่านั้น)
2.สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา (ชนิดคืนต้น ไม่มีผลตอบแทน) ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป (ได้รับใบสมทบกองทุนฯ เพื่อเป็นหลักฐานในการขอรับเงินคืนเมื่อสิ้นสุดโครงการ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 โดยกองทุนฯ ขอสงวนสิทธิในการคืนเงินสมทบก่อนกำหนด)
3.สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา (ชนิดคืนต้น และมีผลตอบแทน) ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป (ได้รับใบสมทบกองทุนฯ เพื่อเป็นหลักฐานในการขอรับเงินคืนเมื่อสิ้นสุดโครงการ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 โดยกองทุนฯ ขอสงวนสิทธิในการคืนเงินสมทบก่อนกำหนด)
นายบุรฉัตร ยังกล่าวอีกว่า เงินที่ได้รับการบริจาค และสมทบในวันนี้ สำนักงาน ธ.ก.ส.สระแก้ว จะโอนไปยังบัญชีกองทุนช่วยเหลือชาวนา ณ ธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ บางเขน กรุงเทพฯ ตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค และสมทบ และหากท่านใดมีความประสงค์จะช่วยเหลือชาวนา สามารถร่วมบริจาค และสมทบทุนกองทุนช่วยเหลือชาวนาเพิ่มเติม ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ