มหาสารคามตั้งศูนย์เฉพาะกิจแก้แล้ง ด้านชาวไร่มันฯ เมืองอุดรโอดไรแดงระบาดหนัก

มหาสารคาม/อุดรธานี - แล้งเริ่มรุนแรง จังหวัดมหาสารคามตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ปัญหาฯ พร้อมประกาศเตือนชาวนาให้งดทำนาปรังรอบ 2 เด็ดขาดเสี่ยงขาดทุนสูง ขณะที่ชาวไร่มันสำปะหลังที่อุดรธานีโอดเข้าสู่หน้าแล้งไรแดงระบาดทำต้นมันสำปะหลังเหลืองแห้งยืนต้นตาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2557 เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง โดยจังหวัดมหาสารคามได้ประกาศเขตภัยพิบัติแล้งไปแล้ว 2 อำเภอ คือ อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเชียงยืน พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมประกาศให้อำเภอเมืองมหาสารคามเป็นอำเภอที่ประสบภัยแล้งเพิ่มขึ้นอีก 1 อำเภอรวม 3 อำเภอจาก 13 อำเภอทั้งจังหวัด

สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่งของจังหวัดมหาสารคาม ภาพรวมพบว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีเพียงร้อยละ 31 จากปริมาณความจุอ่าง 81.42 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์น้อย ในจำนวนนี้มี 7 อ่างที่มีปริมาณน้ำเก็บกักไม่ถึง 20%

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้น ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องเกษตรกรให้ทำนาปรังตามแผนการจ่ายน้ำและในพื้นที่ตามที่โครงการชลประทานมหาสารคามกำหนดเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะภัยแล้ง

และไม่ควรทำนาปรังรอบสองเด็ดขาด เพื่อเก็บน้ำไว้สำหรับอุปโภคบริโภคและผลิตน้ำประปาหมู่บ้านต่อไป

แล้งหนักไรแดงระบาดไร่มันฯ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุดรธานีรายงานว่า ขณะนี้ชาวไร่มันสำปะหลังในพื้นที่บ้านห้วยดงยาง ม.11 ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหา “ไรแดง” ระบาดกัดกินต้นมันสำปะหลังที่ปลูกมาได้กว่า 5 เดือนแล้ว จนต้นมันสำปะหลังแห้งตายยืนต้น

นางทองเทียน ชัยบุรมย์ อายุ 69 ปี หนึ่งในชาวไร่มันสำปะหลังบ้านห้วยดงยาง ต.กุดจับ เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวปลูกมันสำปะหลังพันธุ์เกล็ดมังกร โดยซื้อท่อนพันธุ์มาจากจังหวัดหนองคาย ทดลองปลูกได้เมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้ผลดีจึงซื้อต้นพันธุ์มาปลูกเต็มพื้นที่ 30 ไร่ ตลอดระยะเวลาไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด

แต่พอถึงต้นฤดูกาลปลูกมันสำปะหลังในปีนี้ ตนก็นำเอาต้นพันธุ์เกล็ดมังกรมาปลูกเช่นเดิม จนถึงขณะนี้ต้นมันสำปะหลังมีอายุกว่า 5 เดือนแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อนราวต้นเดือนมีนาคมนี้ สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไวจากหนาวเย็นกลายเป็นร้อนจัด ก็พบว่าต้นมันสำปะหลังที่ปลูกไว้มีอาการแห้ง ใบมีสีแดง สังเกตเห็นที่ใบและยอดต้นจะมีรังคล้ายๆ กับไยแมงมุม จากนั้นอีก 2-3 วันต่อมายอดต้นมันสำปะหลัง และใบก็จะเหลืองแห้ง และตายลงในที่สุด

ซึ่งไรแดงเริ่มทำลายมันสำปะหลังในวงแคบ ต่อมาก็ได้แพร่ขยายทำลายความเสียหายจนขณะมีพื้นที่ 4-5 ไร่ได้รับความเสียหายต้นมันสำปะหลังยืนต้นตาย

เบื้องต้นตนได้ประสานขอความช่วยเหลือกับสำนักงานเกษตรอำเภอกุดจับ ซึ่งทางเกษตรได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาเก็บตัวอย่าง และให้คำแนะนำใช้ยามาฉีดพ่นเพื่อกำจัด