ศูนย์ข่าวศรีราชา - สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้คุณภาพน้ำทะเลบริเวณอ่าวศรีราชา-เกาะสีชัง ที่ขนถ่ายสินค้าทางการเกษตรมีคุณภาพน้ำที่ดีขึ้น หลังบริษัทรับซื้อสินค้าต่างประเทศวางมาตรการเข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อม หากสร้างปัญหางดซื้อสินค้าทันที
รองศาสตราจารย์ ดร.วรวุฒิ จุฬาลักษณานุกูล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์คุณภาพน้ำทะเลบริเวณอ่าวศรีราชา และเกาะสีชังนั้นมีคุณภาพน้ำทะเลที่ดีขึ้น เนื่องจากมีข้อกำหนด และมาตรการขั้นเด็ดขาดของบริษัทต่างประเทศในการรับซื้อสินค้าทางการเกษตร เช่น แป้งมันสำปะหลัง ข้าวโพด ที่ดำเนินการขนถ่ายสินค้ากลางทะเลบริเวณอ่าวศรีราชา และเกาะสีชังนั้นให้ดำเนินการโดยปราศจากมลพิษใดๆ ทั้งสิ้น เพราะหากตรวจสอบ หรือส่งผลกระทบจะไม่รับซื้อสินค้าจากบริษัทนั้นทันที
ที่ผ่านมา ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบพยายามวางมาตรการขั้นเด็ดขาดในการดูแลสภาพแวดล้อมและผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะสภาพน้ำทะเลที่เปลี่ยนแปลง ฝุ่นละอองที่สร้างปัญหาต่อชาวบ้าน จนสร้างปัญหาต่อน้ำทะเลมีการเน่าเสีย หรือ แพลงก์ตอนบูม เนื่องจากมีสารอาหารปริมาณมาก ทำให้มีการเจริญเติบโตของสาหร่ายมากผิดปกติ ทำให้น้ำเกิดเน่าเสียทำให้ปลาตายจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทต่างประเทศมีความเป็นห่วงใยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น จึงกำชับหากสร้างปัญหาจะไม่รับซื้อสินค้าจากบริษัทนั้นอย่างเด็ดขาด
รองศาสตราจารย์ ดร.วรวุฒิ กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องนี้ได้มอบหมายให้นักวิจัยติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง และทราบว่าคุณภาพน้ำทะเลบริเวณดังกล่าวดีขึ้นมาก ทำให้สัตว์น้ำ และปะการังขยายพันธุ์ และเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อสินค้ารายใหญ่บังคับให้ไทยดำเนินการขนส่งสินค้าให้ดีขึ้นไม่ให้มีฝุ่น-ละออง ทำให้ผลิตภัณฑ์ทางกาเกษตร โดยเฉพาะมันสำปะหลังอัดเม็ดมีประสิทธิภาพดีขึ้น
ก่อนหน้านี้ สินค้าส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศแถบอียู นำไปเป็นอาหารสัตว์ แต่ปัจจุบันประเทศจีนเป็นพ่อค้ารายใหญ่ นำไปเป็นอาหารสัตว์เช่นกัน ได้แก่ วัว โคขุน โดยมีการกำหนดข้อเรียกร้องให้ไทยขนส่งสินค้าโดยไม่มีมลพิษ ซึ่งเป็นการวางมาตรการบังคับจากพ่อค้ารับซื้อ ทำให้ลูกค้าต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด จึงส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม
