ศูนย์ข่าวศรีราชา - มท.1 ลงพื้นดูปัญหาไฟฟ้าดับบนเกาะสีชัง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน พร้อมวางแผนแก้ไขในระยะสั้น-ยาว
วันนี้ (13 ต.ค.) นายจารุงพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางมาที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปถึงปัญหาไฟฟ้าดับบนเกาะสีชัง และแนวทางในการแก้ไข โดยมีนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัดชลบุรี นายอำเภอ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และพนักงานการไฟฟ้าให้การตอบรับ
นายนำชัย หล่อวัฒนตระกูล ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวถึงเหตุการณ์ไฟฟ้าดับบนเกาะสีชัง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ในช่วงเวลากลางคืน โดยหลังได้รับแจ้งทางการไฟฟ้าบนเกาะสีชัง และเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าจากส่วนกลางเข้ามาแก้ปัญหา โดยใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าของโรงจักรไฟฟ้าดีเซลบนเกาะสีชังแก้ไขปัญหา ซึ่งแล้วเสร็จในช่วงเช้าของวันที่ 12 ต.ค. พร้อมตั้งตรวจสอบจุดที่ทำให้เกิดไฟฟ้าดับ
จากการตรวจสอบพบว่า เกิดปัญหาที่สายเคเบิลไฟฟ้าใต้น้ำบริเวณห่างจากเกาะสีชังประมาณ 1.5 กิโลเมตร แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม บริเวณที่เกิดขึ้นมีท่าเรือ 1 แห่ง ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นสาเหตุที่เกิดปัญหาในครั้งนี้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาสายเคเบิลไฟฟ้าใต้น้ำเคยขาดมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อประมาณปี 2554 ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกสมอเรือเกี่ยวสายขาด
นายนำชัย กล่าวต่อไปว่า ในช่วงแรกที่มีการวางสายไฟเคเบิลใต้น้ำ ได้ตรวจสอบแล้วบริเวณดังกล่าวไม่มีปัญหา แต่ในระยะหลังมีเรือสินค้าสัญจรเพิ่มมากขึ้น และเริ่มเกิดปัญหาบ่อยครั้ง โดยหากแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีกจะต้องมีการย้ายจุดวางสายเคเบิลไฟฟ้าจุดใหม่ ซึ่งจะต้องย้ายไปอยู่ด้านหลังเกาะสีชังซึ่งจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มสูงขึ้น เพราะระยะจาก 10 กิโลเมตร จะเพิ่มขึ้นเป็น 20 กิโลเมตร
ด้านนายจารุพงศ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วสร้างความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อประชาชนบนเกาะสีชังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องแก้ไขในระยะสั้น และระยะยาวต่อไป โดยระยะสั้นจะต้องใช้เครื่องปั่นไฟฟ้าระบบดีเซลไปก่อน แต่ทราบว่าเครื่องปั่นไฟฟ้าระบบดีเซลบนเกาะสีชังเก่ามาก และค่าใช้จ่ายสูง โดยจะต้องหาเครื่องใหม่ไปทดแทนโดยเร็ว
ส่วนในระยะยาวจะต้องย้ายจุดที่ฝั่งสายเคเบิลไฟฟ้าไปยังจุดอื่นแทน ซึ่งจะฝังไปด้านหลังเกาะสีชัง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยเฉพาะเรือสินค้าที่ทอดสมอจอดเรือบริเวณดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องแก้ไขปัญหาสายเคเบิลไฟฟ้าที่ขาดในช่วงนี้ไปก่อน และต้องหาสาเหตุที่ทำให้สายเคเบิลที่ขาดด้วยเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อไป เพราะสายเคเบิลไฟฟ้าใต้น้ำนั้นขาดได้ยากมาก หากไม่มีอะไรไปถูกสายเคเบิลดังกล่าว
