กปปส.บ้านโป่งเผชิญหน้าเสื้อแดงจนหวิดปะทะกัน ขณะเสื้อแดงเตรียมไปกดดัน ผอ.รพ.ให้ปลดป้ายไม่เอารัฐบาลโกง

ราชบุรี - กปปส.บ้านโป่ง เมืองราชบุรี เผชิญหน้ากับกลุ่มคนเสื้อแดงบ้านโป่ง จนหวิดปะทะกันขึ้น ขณะที่กลุ่ม กปปส.บ้านโป่งรวมตัวไปให้กำลังใจผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านโป่ง ที่ขึ้นป้ายต่อต้านความรุนแรง ไม่เอารัฐบาลโกงประชาชน หลังกล่มเสื้อแดงจะมากดดันให้ปลดป้ายออก

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (28 ก.พ.) กลุ่ม กปปส.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบ้านโป่งกว่า 300 คน ออกมาถือธงชาติขนาดใหญ่ พร้อมทั้งแสดงสัญลักษณ์เป่านกหวีดและปราศรัยที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังได้ทราบข่าวว่าจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงใน อ.บ้านโป่ง มากดดันให้นายแพทย์ดุลวิทย์ ตปนียากร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านโป่ง ถอดป้ายขนาดใหญ่ที่มีข้อความว่า “ชาวสาธารณสุขราชบุรี ดูแลประชาชนทุกคน ไม่เลือกปฏิบัติ ขอประณามผู้ใช้ความรุนแรง” ที่ติดไว้ที่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลบ้านโป่งออก

รวมทั้งป้ายข้อความเล็กๆ ที่ติดไว้ว่า “ไม่ต้องการรัฐบาลโกง” ด้วย โดยคนเสื้อแดงต้องการให้นำป้ายทั้งหมดลง เนื่องจากมองว่าแพทย์ และพยายาบาลมีหน้าที่รักษาผู้ป่วยไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง ทำให้ กปปส.ได้นำมวลชนมาให้กำลังใจ และมอบช่อดอกไม้ให้แก่ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ตัดหน้ากลุ่มคนเสื้อแดง และอยู่รอคนเสื้อแดงที่จะเดินทางมา

ต่อมา คนเสื้อแดงกว่า 20 คนได้เดินทางมาที่บริเวณหน้า สภ.บ้านโป่ง แต่ไม่ได้เดินทางไปที่หน้าโรงพยาบาลบ้านโป่ง ตามที่ได้มีการนัดกันไว้ เนื่องจากเกรงว่ามวลชนจะไปปะทะกัน โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้ทำการปราศรัยบนรถเครื่องขยายเสียงที่บริเวณหน้า สภ.บ้านโป่ง

อย่างไรก็ตาม ขณะที่กลุ่ม กปปส.และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบ้านโป่ง ได้ร่วมกันเดินถือธงชาติ และแสดงสัญลักษณ์โดยการเป่านกหวีดไปตามถนนหน้าโรงพยาบาลบ้านโป่ง โดยผ่านจุดบริเวณที่กลุ่มคนเสื้อแดงปราศรัยอยู่ที่บริเวณหน้า สภ.บ้านโป่ง ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากัน และเกิดการโต้เถียงกัน และตะโกนด่าทอกันเกิดขึ้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าทำการห้ามปราม

และหลังจากกลุ่ม กปปส.ได้เดินถือธงชาติเป่านกหวีดไปรอบตลาด และกลับมาผ่านจุดที่คนเสื้อแดงปราศรัยอยู่อีกครั้ง ทำให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นอีกครั้งเมื่อต่างฝ่ายต่างท้าทายกัน จนทำให้กลุ่ม กปปส.ซึ่งมีจำนวนคนมากกว่าจะเข้ามารุมทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยืนด่าทออยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังเข้าสกัดกั้น และห้ามปราม และขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายกลับไป ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงยอมสลายตัว จึงทำให้เหตุการณ์นั้นสงบลงโดยไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆ