แล้งหนักต้นทุนปลูกแตงโมเพิ่ม หลายรายปลูกถั่วแทนข้าวนาปรังลดเสี่ยง

มหาสารคาม/ขอนแก่น - กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมใน ต.เวียงสะอาด อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม กำลังประสบกับภัยแล้งอย่างหนัก แหล่งน้ำตามธรรมชาติแห้งขอด ต้องลงทุนจ้างรถมาขุดคลอง เพื่อหาน้ำใต้ดิน ก่อนต่อท่อระยะทางกว่า 300 เมตร มารดต้นแตงโม ขณะที่เกษตรกรในจังหวัดขอนแก่นหลายรายได้หันมาปลูกถั่วเหลืองแทนการทำนาปรัง เพราะไม่ต้องการเสี่ยงกับภัยแล้ง เผยใช้ทุนในการปลูกน้อยกว่าข้าวนาปรัง

นายบุญมี ศรีสุข เกษตรกรผู้ปลูกแตงโมบ้านหัวดงนาค่าย หมู่ 10 ต.เวียงสะอาด อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เล่าว่า ครอบครัวตนปลูกแตงโมบนพื้นที่ 11 ไร่ ซึ่งเก็บผลผลิตไปแล้ว 1 รุ่น โดยรุ่นที่ 2 ผลผลิตกำลังจะเริ่มออกสู่ตลาด แต่ต้องมาประสบกับปัญหาภัยแล้ง ทำให้น้ำในคลองชลประทานแห้งขอด ตนจึงได้ใช้เงินส่วนตัว จ้างรถแบ็กโฮมาขุดคลอง ขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 15 เมตร ลึก 4.5 เมตร เพื่อหาน้ำใต้ดิน

นายบุญมีกล่าวต่อว่า การลงทุนขุดคลองน้ำดังกล่าวตนต้อ เสียค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 9,000 บาท เพื่อให้มีน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นแตงโม ให้สามารถเก็บขายได้ โดยจะต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อดึงน้ำมาจากในคลอง และต่อท่อส่งน้ำไกลกว่า 300 เมตร เพื่อรดแตงโม

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ผลผลิตแตงโมลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากเจอทั้งภัยหนาวและภัยแล้งทำให้แตงโมลูกเล็ก ขนาดไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ขายไม่ได้ราคาเท่าที่ควร

ขณะที่เกษตรกรที่อำเภอภูผาม่าน จ.ขอนแก่น หลายครอบครัวได้หันมาปลูกถั่วเหลืองแทนการปลูกข้าวนาปรัง ต่างให้เหตุผลว่าเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดน้ำในการปลูกข้าว และเชื่อว่าหากน้ำไม่พอผลผลิตก็จะได้น้อย ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน จึงไม่อยากฝืนธรรมชาติ

โดยนายสนอง โต้นภูเขียว เกษตรกรในอำเภอภูผาม่าน จ.ขอนแก่น บอกว่า หลังจากเสร็จสิ้นฤดูการทำนาปรังเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ตนได้หันมาทำไร่ถั่วเหลือง เพื่อหารายได้เสริมพร้อมทั้งลงทุนน้อยกว่าการทำนา ซึ่งมีเนื้อที่ปลูกทั้งหมด 10 ไร่ ใช้เวลาปลูกเพียง 4 เดือน และเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยกว่าการทำนา

ที่สำคัญพืชตระกูลถั่วยังช่วยฟื้นฟูความสมบูรณ์ของดินได้อีกทางหนึ่ง ชาวบ้านแถบนี้นิยมปลูกในฤดูแล้ง เมื่อถั่วเหลืองครบอายุในการเก็บเกี่ยวจะมีพ่อค้ามารับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองในราคากิโลกรัมละ 17-20 บาท

นายสนองกล่าวว่า แม้ปลูกถั่งเหลือขายจะได้เงินไม่มากเท่ากับข้าวแต่เป็นการลดความเสี่ยงจากภัยแล้ง และถั่วเหลืองมีต้นทุนต่ำกว่าการทำข้าวนาปรัง จึงทำให้ตนเองหันมาปลูกถั่วเหลืองแทนข้าวนาปรัง และเงินที่ได้จากการปลูกถั่วเหลืองก็จะใช้เป็นทุนสำหรับการปลูกข้าวในช่วงกลางปีนี้ต่อไป

“นอกจากนี้ผมยังได้อาศัยหญ้าที่ขึ้นตามคันนาเกี่ยวไปให้วัวกิน ซึ่งเลี้ยงไว้ทั้งหมด 20 ตัว ตอนนี้หญ้าเริ่มขาดแคลนเพราะอากาศมันแล้งจัด หญ้าที่ขึ้นโดยทั่วไปแห้งตายเกือบหมด” นายสนองกล่าว