xs
xsm
sm
md
lg

เครือสหพัฒน์ ปรับแผนกระจายสินค้าหลังวิกฤตการเมืองทำแนวโน้มตลาดไม่โต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - เครือสหพัฒน์ปรับแผนกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคให้ถึงมือประชาชนได้ง่ายขึ้น ด้วยการจัดคาราวานสินค้าราคาถูกกระจายทั่วในทุกภูมิภาคของประเทศ ชี้วิกฤตการเมืองแม้จะยังไม่กระทบต่อยอดขายสินค้าโดยตรง แต่ไม่มีแนวโน้มเติบโตทางการตลาด

นายทนง ศรีจิตร์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ศรีราชา จ.ชลบุรี เผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ได้ปรับแผนกระจายสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค ภายใต้การผลิตของเครือสหพัฒน์ ให้ถึงมือประชาชนมากยิ่งขึ้นด้วยการจัดกองคาราวานสินค้าราคาถูกออกจำหน่ายในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดตามแนวชายแดน ภายใต้ชื่อ “สหพัฒน์แฟร์” จากเดิมที่มีเพียงมหกรรมจำหน่ายสินค้าไม่กี่จุด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนให้ได้ใช้สินค้าดีราคาถูกในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

โดยวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ ไม่เพียงแต่จะฉุดให้ภาวะเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ของไทยได้รับผลกระทบเท่านั้น แต่ในแง่จิตวิทยาก็ทำให้ประชาชนลดการซื้อสินค้า และการใช้จ่ายลง เนื่องจากไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นเช่นไร และแม้ว่าการชะลอกำลังซื้อของประชาชนจะยังไม่กระทบต่อยอดขายสินค้าในเครือสหพัฒน์ แต่ก็เป็นปัจจัยที่สามารถชี้ชัดถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของเครือสหพัฒน์ ในปีนี้ได้ว่า อาจไม่เติบโตเช่นเดียวกับภาคเศรษฐกิจอื่นๆ

“ในแต่ละปีเราได้วางเป้าหมายการเติบโตในส่วนยอดขายไว้ที่ 10% ซึ่งปีที่แล้วก็โตได้แค่เพียง 4-5% และหากในปีนี้ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของเครือสหพัฒน์ มีเท่ากับปีก่อนก็ถือว่าเก่งแล้ว และเมื่อเราดูวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็พบว่าไม่เอื้อต่อการทำตลาดในประเทศ ขณะที่ภาคธุรกิจอื่นๆ ก็เริ่มมองหาทางออกกันแล้ว”

อย่างไรก็ดี ในแง่การส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคของเครือสหพัฒน์ ที่ส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศ ยังถือว่าไปได้ดี โดยเฉพาะตลาดในประเทศลาว และพม่า ที่มีสัดส่วนการขายที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้า

นายทนง ยังเผยถึงการเตรียมรับมือวิกฤตต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตของเครือสหพัฒน์ ว่า มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนับตั้งแต่เมื่อเกิดปัญหาการประกาศขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำเป็น 300 บาทของรัฐบาล ทำให้เครือสหพัฒน์ ใช้นโยบายลดขนาดการทำงานลง แต่หันมาเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต และลดต้นทุนดำเนินงานควบคู่กันไป โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มคุณภาพของสินค้าเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอื่นๆ ซึ่งก็ทำให้สินค้าของเครือสหพัฒน์ ได้รับการตอบรับจากทั้งตลาดกลาง และตลาดบนเป็นอย่างดี

“และแม้ภาคการส่งออกของเราจะยังไปได้ดี แต่การที่หน่วยงานภาครัฐบางส่วนต้องหยุดให้บริการก็ทำให้ภาคธุรกิจทำงานลำบากขึ้น โดยปัญหาการเมืองถือเป็นเรื่องที่พูดยาก เพราะการมีรัฐบาลรักษาการ ทำให้รัฐบาลไม่สามารถออกงบประมาณในการพัฒนาประเทศได้ ซึ่งก็ทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจต่างๆ ไม่เติบโต และมีผลต่อกำลังซื้อภายในประเทศด้วยเช่นกัน” นายทนง กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น