กาฬสินธุ์ - ปัญหาภัยแล้งเมืองน้ำดำส่อเค้ารุนแรง พื้นที่ในเขตชลประทานน้ำส่งไม่ถึงส่งผลให้ข้าวนาปรังไม่โต บางจุดตายแล้ง ขณะที่นอกเขตชลประทานแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอด เรียกร้องทางจังหวัดช่วยเหลือด่วน
วันนี้ (25 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งว่า จากการสำรวจปัญหาความแห้งแล้งพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ครอบคลุม 18 อำเภอ พบว่าปัญหาความแห้งแล้ง 13 อำเภอพื้นที่นอกเขตชลประทาน แหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอด ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาการอพยพแรงงาน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอนามน อำเภอห้วยผึ้ง อำเภอหนองกุงศรี และอำเภอห้วยเม็ก ส่วนใหญ่เกษตรกรไม่สามารถปลูกพืชสวนครัวได้ และเกิดปัญหาอาชญากรรม
นอกจากนี้ ในเขตชลประทานเริ่มเกิดปัญหาการแย่งน้ำทำนาปรัง เพราะอากาศแปรปรวน ข้าวไม่โต ทำให้หลายพื้นที่ชาวนาต้องเร่งสูบน้ำตามครองชลประทาน ส่งผลให้ท้ายน้ำมีน้ำไม่เพียงพอ ซึ่งในขณะนี้เขื่อนลำปาว มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 661 ล้าน ลบ.ม.ที่ยืนยันว่ามีน้ำเพียงพอใช้อุปโภคบริโภค แต่ปัญหาการทำนาปรังกว่า 154 เปอร์เซ็นต์หรือเกือบ 3 แสนไร่นั้น ทำให้น้ำส่งไม่ทั่วถึง อีกทั้งในอนาคตเกษตรกรเกรงว่าปริมาณข้าวนาปรังที่ผลิตออกมามากกว่าปกติจะไม่มีตลาดรองรับ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ประกาศให้มีโครงการรับจำนำข้าวนาปรังในฤดูกาลนี้ จึงเรียกร้องให้ทางจังหวัดจัดหาตลาดพร้อมกับหาแผนแก้ไขปัญหาน้ำแล้งให้กับประชาชนในฤดูกาลนี้ด้วย
ด้านนายสุรพจน์ รัชชุสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้ นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำการสำรวจพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งเพื่อเตรียมการช่วยเหลือ เบื้องต้นจะเน้นการแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนพื้นที่นอกเขตชลประทานเป็นหลัก
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว หลังจากผลสำรวจความเดือดร้อนก็จะนำโครงการเข้าแก้ไขปัญหาในทันที