xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาบุรีรัมย์ทุกข์เข็ญ เลิกทำนาหันปลูกอ้อยเจอภัยแล้งซ้ำอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวนาบ้านละกอ ต.ดอนมนต์ อ.สตึก  จ.บุรีรัมย์  ปรับเปลี่ยนพื้นที่นาข้าวหันมาปลูกอ้อย แต่กลับมาเผชิญภัยแล้งซ้ำอีก วันนี้ ( 25 ก.พ.)
บุรีรัมย์ - ภัยแล้งคุกคามหนัก ชาวนาบ้านละลอ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เกือบทั้งหมู่บ้านที่หันมาปลูกอ้อยหวังหนีปัญหาน้ำท่วมฝนแล้งซ้ำซากทำผลผลิตเสียหายไม่คุ้มค่ากับการลงทุนและหนี้สินท่วมหัว แต่กลับมาเผชิญภัยแล้งซ้ำอีก ต้องควักเงินซื้อน้ำมารดหล่อเลี้ยงต้นอ้อยไม่ให้แห้งตาย แบกรับภาระต้นทุนพุ่ง

วันนี้ (25 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาบ้านละกอ ต.ดอนมนต์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เกือบทั้งหมู่บ้านที่ตัดสินใจปรับเปลี่ยนพื้นที่นาข้าวหันมาปลูกอ้อย หวังหนีปัญหาน้ำท่วมและฝนแล้งที่ทำให้ผลผลิตเสียหาย และประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี แต่จากสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ที่ขยายวงกว้างและมาเร็วกว่าทุกปี กลับทำให้ชาวนาที่หันมาปลูกอ้อยต้องเผชิญกับภาวะภัยแล้งซ้ำอีก เนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอดทำให้ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นอ้อยที่ปลูกใหม่เริ่มมีสภาพเหี่ยวเฉา

จากผลกระทบดังกล่าวชาวนาหลายรายต้องยอมควักเงินในกระเป๋าซื้อน้ำจากพ่อค้ารถเร่คันละ 350 - 400 บาท นำไปฉีดพรมหล่อเลี้ยงต้นอ้อยที่ปลูกใหม่ไม่ให้แห้งตายเสียหาย ทำให้ต้องแบกรับภาระต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นอีกเฉลี่ยไร่ละ 2,000 บาท จากกรณีดังกล่าวได้เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางช่วยเหลือโดยการขุดลอกแหล่งน้ำ หรือขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อให้ชาวนาหรือเกษตรกรได้มีน้ำในการทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี

ด้าน นางสงวน ขจัดโรคา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 ม.6 ชาวนาบ้านละกอ ต.ดอนมนต์ อ.สตึก บอกว่า มีที่นาอยู่ทั้งหมด 5 ไร่ ที่ผ่านมาประสบภัยแล้งและน้ำท่วมมาโดยตลอด จนทำให้ประสบปัญหาขาดทุนและมีหนี้สินสะสมจากการกู้ยืมมาลงทุนทำนา จึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนนาข้าวหันมาปลูกอ้อย แต่กลับต้องมาเผชิญภาวะภัยแล้งซ้ำอีก จนต้องซื้อน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นอ้อยที่ปลูกใหม่ ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น และยังไม่รู้ว่าปีนี้จะได้ผลผลิตคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ



นางสงวน  ขจัดโรคา
กำลังโหลดความคิดเห็น