ชาวไร่ข้าวโพดปากชมประท้วงรัฐถูกสวมสิทธิ

เลย - ชาวไร่ข้าวโพดปากชมเดือด ชุมนุมประท้วงเร่งรัฐเบิกจ่ายแทรกแซงราคาข้าวโพด หลังเกษตรกรหลายรายได้ใบประทวน กลับไม่มีรายชื่อในบัญชี แต่กลับมีชื่อกลุ่มใหม่ เชื่อมีการสวมสิทธิ ด้านพ่อเมืองเลยพร้อมติดตามช่วยเหลือ

วันนี้ (24 ก.พ.) ที่ศาลาประชาคม หลังศาลากลางจังหวัดเลย เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในพื้นที่ อ.ปากชม กว่า 150 คน เข้าพบนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมแจ้งข้อเรียกร้อง ขอให้จังหวัดเร่งรัดเบิกจ่ายเงินชดเชยตามมาตรการแทรกแซงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กิโลกรัมละ 1.50 บาท ตามที่เกษตรกรเข้าร่วมมาตรการกับทางราชการ

และได้ขายข้าวโพดให้ผู้ประกอบการรับซื้อข้าวโพดไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2556 ขณะนี้เวลาล่วงเลยมานาน ขอให้ราชการเร่งรัดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกร ซึ่งเกษตรกรเชื่อว่ามีการสวมสิทธิ

นางนิสากร แพร่ศิริวุฒิพงษ์ แกนนำชาวไร่ข้าวโพดอำเภอปากชม กล่าวว่า มีเกษตรกรหลายรายไปขึ้นทะเบียนใบประทวนในวันที่ 5 ตุลาคม 2556 ก่อนวันกำหนดหมดเขตวันที่ 31 ตุลาคม 2556 แต่เมื่อกลับไปยื่นใบประทวนที่โกดังข้าวโพดกลับได้รับคำตอบว่าพาณิชย์จังหวัดเลยหยุดยื่นใบประทวนแล้ว แต่ภายหลังกลับมาตรวจสอบพบว่ารายชื่อเกษตรกรที่มีไม่อยู่ในกลุ่ม แต่กลับมีรายชื่อแทน และมีลักษณะแบบนี้ประมาณ 500 คน ซึ่งมีเกษตรกรที่เข้าร่วมอยู่ประมาณ 3,000 คน

ด้านนายวิโรจน์กล่าวว่า ทางจังหวัดไม่ได้เพิกเฉย ได้รวบรวมเอกสารข้อมูลตามโครงการ จัดส่งให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังดำเนินการมาทุกระยะ จนถึงขณะนี้ได้จ่ายเงินชดเชยให้ผู้ประกอบการไปแล้ว 5 งวด คือวันที่ 16-31 ตุลาคม, 1-10 พฤศจิกายน, 11-20 พฤศจิกายน และ 21-30 พฤศจิกายนตามลำดับ อาจจะมีเกษตรกรบางรายยังไม่ได้รับเงินชดเชย ซึ่งขึ้นอยู่กับการยื่นเอกสารจากผู้ประกอบการส่งให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด อย่างไรก็ตามจะได้ติดตามในส่วนที่เหลืออย่างใกล้ชิด

นายพงษ์ศักดิ์ วรวงศ์ พาณิชย์จังหวัดเลย กล่าวว่า จังหวัดเลยได้รับการจัดสรรวงเงินตามโครงการแทรกแซงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2556-2557 เพื่อให้ผู้ประกอบการรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกร โดยมีวงเงินชดเชยราคาผลผลิตกิโลกรัมละ 1.50 บาท รวมเป็นเงิน 252 ล้านบาท ถึงขณะนี้ได้จ่ายเงินชดเชยให้ผู้ประกอบการรับซื้อข้าวโพดไปแล้วรวม 5 งวด เป็นเงิน 142 ล้านบาทเศษ ส่วนที่เหลืออยู่ในขั้นตอนตรวจสอบเอกสารที่ส่วนกลาง หากครบถ้วนจะทำการโอนเงินชดเชยให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อนำจ่ายให้เกษตรกรตามโครงการต่อไป ซึ่งจังหวัดเลยจะได้เร่งรัดติดตามผลอย่างใกล้ชิดต่อไป เมื่อได้รับคำชี้แจงเกษตรกรต่างพอใจจึงได้เดินทางกลับ