ฉะเชิงเทรา - ชาวนาแปดริ้วโอดน้ำในคูคลองแห้งขอดเหือดหายอย่างวิปริตผิดธรรมชาติ ทำต้นข้าวกำลังตั้งท้องยืนต้นตายท้องกลม ระบุทั้งที่พื้นที่เป็นเขตของกรมชลประทานพระองค์ไชยานุชิต เส้นทางระบายน้ำทิ้งจากทั้งทางภาคเหนือ ภาคกลาง และ กทม. ไม่เว้นแม้แต่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็ยังสูบน้ำลงมาใส่จนท่วมขังเอ่อล้นจนถึงปลายปี
นางปราณีต เมืองพงษา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 ม.9 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เกษตรกรชาวนา กล่าวว่า ขณะนี้ชาวนาในเขตพื้นที่ ต.บางเตย และใกล้เคียง กำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหานาข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวงขาดน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว จนทำให้นาข้าวได้รับความเสียหาย ยืนต้นตาย โดยนาข้าวของตน จำนวน 11 ไร่ มีรวงข้าวที่ฝ่อลีบเสียหายเป็นจำนวนมาก
ปัญหาเกิดจากขณะนี้น้ำในลำคลองแพรกสมอเซ ที่เชื่อมต่อระหว่างคลองแพรกบางเตย และคลองแขวงกลั่น แห้งขอดลงหายไปอย่างผิดปกติ จนชาวนาไม่มีน้ำทำนา ไม่มีแหล่งต้นทุนน้ำที่จะสูบขึ้นมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวงอยู่ในแปลงนา และส่งผลทำให้ต้นข้าวของชาวบ้านยืนต้นตายเกือบหมดทุกราย โดยรวงข้าวฝ่อไม่มีเมล็ดข้าวอยู่ภายใน หรือกลายเป็นข้าวลีบ
ทั้งที่คูคลองในพื้นที่บริเวณนี้อยู่ในเขตของกรมชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต หรือเป็นเส้นทางผ่านของการผันน้ำทิ้งออกจากเมืองกรุงเทพฯ รวมทั้งเป็นเส้นทางระบายน้ำทิ้งจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาในเขตภาคกลาง และน้ำจากทางภาคเหนือ จากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งก่อนหน้านี้เพียง 2 เดือนเศษ พื้นที่เขตนี้ยังคงเป็นแหล่งชุ่มน้ำ หรือมีน้ำท่วมขังในปริมาณมาก
จนทำให้ชาวนาต้องยืดเวลา และหว่านข้าวล่าช้าออกไปจากเดิม เนื่องจากยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในแปลงนาเป็นจำนวนมาก แต่มาถึงวันนี้ น้ำในลำคลองเกือบทุกสายกลับแห้งขอดหายไป จนชาวนาไม่มีน้ำที่จะสูบขึ้นมาทำนา หรือใช้ในการหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวง จนนาข้าวได้รับความเสียหายอยู่ในขณะนี้ จึงอยากร้องขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ช่วยหาทางแก้ไข หรือให้กรมชลประทานปล่อยน้ำออกมาช่วยชาวนาด้วย
ส่วนความหวังที่จะนำข้าวเข้าสู่โครงการรับจำนำของรัฐบาลนั้น คงไม่มีอีกแล้ว เพราะรัฐบาลไม่มีเงินจ่าย และคงจะต้องขายข้าวให้แก่ทางโรงสีเหมือนกับเมื่อสมัยก่อน ซึ่งก็จะต้องถูกโรงสีกดราคาลงมาเหลือแค่เกวียนละ 5-6 พันบาท ซึ่งเป็นราคาที่เขารับซื้ออยู่ในปัจจุบันนี้ และก็จะยิ่งทำให้ชาวนาขาดทุนย่อยยับเพราะถูกดราคา ส่วนหนี้สินก็จะยิ่งเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น เพราะไปกู้เขามาทำนา
โดยโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมานั้น ช่วงแรกๆ ชาวนาก็พากันดีใจเพราะรัฐบาลกำหนดให้ราคาข้าวมีราคาจำนำได้สูงถึงเกวียนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท แต่พอนำเข้าไปจำนำจริงๆ แล้วนั้น ได้ราคาแค่หนึ่งหมื่นสองพันบาทเท่านั้น เพราะความชื้นของข้าวเราไม่ได้ ซึ่งหากในยุคต่อไปใครได้เข้ามาเป็นรัฐบาล ชาวนาก็ขอให้รัฐบาลชุดใหม่บริหารจัดการน้ำท่าให้อุดมสมบูรณ์ ให้ชาวนาสามารถทำกินได้โดยสะดวกก็พอ
ขณะเดียวกัน จากปัญหาน้ำแห้งขอดคลอง ขณะนี้ได้ทำให้โครงการประปาหมู่บ้านนั้นก็ยังขาดแคลนน้ำไปด้วย โดยน้ำประปาที่ชาวบ้านได้รับจ่ายออกมาตามท่อในหมู่บ้านนั้น มีกลิ่นเหม็นของดินโคลน โดยน้ำไม่สะอาด ไม่ใส จนไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการอุปโภคบริโภคได้