สิ้นแล้ว “ปู่เป็ง” ปิดตำนานนักวิ่งมาราธอนอายุมากที่สุดของไทย

ราชบุรี - “ปู่เป็ง เพิงสา” สิ้นแล้วด้วยวัย 99 ปี ปิดตำนานนักวิ่งมาราธอนที่มีอายุมากที่สุดในประเทศไทย หลังล้มป่วยด้วยโรคชรา นอนพักรักษาตัวที่ รพ.สมเด็จพระยุพราช อำเภอจอมบึง เมื่อวันที่ 23 ม.ค.และมาเสียชีวิตเมื่อเวลา 00.40 น.วันที่ 11 ก.พ.

เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (11 ก.พ.) นางพรจันทร์ พุ่มโกมล อายุ 56 ปี พร้อมครอบครัวได้นำศพนายเป็ง เพิงสา หรือปู่เป็ง อายุ 99 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 3 ตำบลจอมบึง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี มาตั้งไว้ที่ศาลาวัดจอมบึง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี หลังได้เสียชีวิตลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เมื่อเวลา 00.40 น. ของวันนี้ ถือเป็นการปิดตำนานนักวิ่งมาราธอนที่มีอายุมากที่สุดของเมืองไทย

นางพรจันทร์ พุ่มโกมล บุตรสาวนายเป็ง เพิงสา หรือปู่เป็ง เปิดเผยว่า บิดาได้เริ่มการวิ่งออกกำลังกายมาตั้งแต่อายุ 80 ปี หลังจากเห็นหลานชายนำถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งขันเทเบิลเทนนิส มาให้ดู และพบเห็นชาวบ้านวิ่งออกกำลังกายผ่านหน้าบ้าน จึงเกิดแรงบันดาลใจใช้การวิ่งออกกำลังกายจนสุขภาพแข็งแรง จนได้รับเชิญจากสำนักงานส่งเสริมสุขภาพ (สสส.) เข้าร่วมแข่งขันระยะทาง 42.195 กม. งานจอมบึงมาราธอน พ.ศ.2544 ที่จังหวัดราชบุรี ประเภทมาราธอน สถิติ 4 ชั่วโมง 46 นาที นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมแข่งขันตามสนามแข่งต่างทั้งระดับจังหวัด และระดับประเทศมาแล้ว

ทุกปีทางมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ได้กำหนดจัดงานแข่งขันจอมบึงมาราธอน และจอมบึงเสือภูเขา ก็ได้เข้าร่วมแข่งขันวิ่งมาราธอน โดยวงการแข่งขันจะทราบกันดีว่า ปู่เป็ง เป็นนักวิ่งที่มีอายุมากที่สุดในประเทศ จนกระทั่งอายุประมาณ 97 ปี เริ่มวิ่งไม่ไหว ได้แต่เดินวิ่งแข่งขันแทน โดยก่อนการแข่งขันก็จะซ้อมเดินทุกวันเพื่อวอร์มร่างกาย จนมีสุขภาพแข็งแรง และเริ่มล้มป่วยนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อำเภอจอมบึง เมื่อวันที่ 23 ม.ค.57 และมาเสียชีวิตเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

สำหรับ “ปู่เป็ง” เป็นชาวนาเชื้อสายมอญ เริ่มต้นเป็นนักวิ่งมาราธอน เมื่อประมาณปี พ.ศ.2537 เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นนักวิ่งมาราธอน ไม่เพียงแต่สามารถวิ่งเข้าเส้นชัย แต่ยังเป็นการเข้าเส้นชัยก่อนนักวิ่งอ่อนวัยกว่าอีกเกือบครึ่งของนักวิ่งที่ลงสนามที่ประลองความแข็งแกร่ง ทําให้ปู่เป็ง กลายเป็นเจ้าของสถิตินักวิ่งมาราธอนที่อายุมากที่สุดของประเทศไทย ที่ปราศจากคู่แข่งในวัยเดียวกัน ทำให้ปู่เป็ง เพิงสา ก้าวเข้าสู่วงการเป็นนักวิ่ง จากมินิมาราธอน 10 กม. มินิฮาร์ฟ 22 กม. และมาราธอน 42.195 กม.

ทุกคืน ปู่เป็ง จะสวดมนต์ และเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ เพื่อตื่นขึ้นมามีความสุขกับการวิ่งยามเช้า และรักษาสุขภาพกาย ความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายด้วยการทําเกษตรกร กินอาหารตามธรรมชาติพืชผัก ออกกำลังกายท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่บริสุทธิ์ที่เป็นทุ่งนา และป่าเขา ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายจนถึงวินาทีสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวได้กำหนดสวดพระอภิธรรมศพไว้ที่วัดอย่างเรียบง่าย และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้