ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวสวนกุหลาบเชียงใหม่เร่งเก็บเกี่ยวดอกกุหลาบส่งขายช่วงวันวาเลนไทน์ เผยอากาศที่หนาวเย็นนานต่อเนื่องในปีนี้ทำให้ดอกกุหลาบสวย คุณภาพดี และราคาขายเพิ่มสูงขึ้น แต่ช่วงเวลาเจริญเติบโตขยายออกไปทำให้ตัดดอกได้ช้ากว่าปกติ บางส่วนไม่ทันเทศกาลแห่งความรัก
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ที่บ้านบวกเต๋ย ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกกุหลาบตัดดอกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยราษฎรที่ทั้งหมดเป็นชาวเขาเผ่าม้งประมาณ 100 ครัวเรือนต่างมีอาชีพหลักเป็นการปลูกกุหลาบพื้นที่รวมมากกว่า 500 ไร่ ซึ่งกุหลาบที่ปลูกทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ต่างประเทศที่มีก้านดอกยาว และดอกใหญ่
ทั้งนี้ จากสภาพพื้นที่ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,250 เมตร มีอากาศเย็นและแสงแดดเพียงพอ ทำให้เหมาะสมต่อการปลูกกุหลาบเป็นอย่างมาก
สำหรับช่วงวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึงนั้น นายยอดชาย โชคนิรมิตร เกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบบ้านบวกเต๋ย เปิดเผยว่า ถือเป็นช่วงที่สร้างรายได้ให้เป็นอย่างดีแก่ผู้ปลูกกุหลาบ โดยเกษตรกรได้มีการเตรียมการตัดแต่งกิ่งไว้ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. 56 แล้วเพื่อให้ดอกกุหลาบออกในช่วงก่อนจะถึงวันวาเลนไทน์พอดี ซึ่งตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องทำการห่อดอกกุหลาบตั้งแต่ที่เริ่มมีขนาดประมาณ 1.5 เซนติเมตรไปจนถึงช่วงจัดส่งด้วยตาข่ายโฟมเพื่อป้องกันดอกบานและช้ำ
โดยตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตัดดอกกุหลาบส่งไปขายแล้วทั่วประเทศ ทั้งที่ตลาดต้นลำไย แหล่งขายดอกไม้ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ และที่ปากคลองตลาด กรุงเทพฯ ซึ่งดอกกุหลาบที่มีการตัดและส่งขายในช่วงวันวานเลนไทน์นั้นจะเน้นดอกกุหลาบสีแดง และสีขาวเป็นหลัก ทั้งกุหลาบสายพันธุ์ฮอลแลนด์ และโจซิฟิน
นายยอดชายกล่าวด้วยว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นต่อเนื่องและยาวนานในปีนี้ส่งผลดีทำให้กุหลาบที่ปลูกมีดอกแข็งแรง และดอกใหญ่ ดูสวยงามกว่าทุกปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ส่งผลกระทบทำให้ช่วงระยะเวลาเติบโตของดอกกุหลายมีการขยายออกไป ทำให้ตัดดอกได้ช้ากว่าปกติ ซึ่งบางส่วนอาจจะไม่สามารถตัดดอกได้ทันช่วงวันวาเลนไทน์
อย่างไรก็ตาม การที่ดอกกุหลาบในปีนี้มีขนาดดอกที่ใหญ่และคุณภาพที่ดี ก็ทำให้ราคาขายส่งหน้าสวนขยับขึ้นจากปีก่อนที่มีดอกละ 5-10 บาท จากดอกละประมาณ 10-25 บาท เป็น 15-35 บาท แต่ก็ทำให้รายได้จากการขายดอกกุหลาบในช่วงนี้ลดลงไปพอสมควร