พระนครศรีอยุธยา - น้ำในลำคลองเมืองกรุงเก่าแห้งขอด ชาวนาอำเภอผักไห่ครวญ ต้นข้าวนาปรังรอบแรกกำลังจะแห้งตายเพราะขาดน้ำ วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องขุดลอกแม่น้ำลำคลองให้ลึก เพื่อป้องกันน้ำท่วมและรับน้ำไว้ใช้ทำนาตอนหน้าแล้ง
วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่ 3 และหมู่ที่ 4 ต.โคกช้าง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า แปลงข้าวนาปรังในเขต ต.โคกช้าง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และทุ่งตำบลไผ่ดำพัฒนา อ.วิเศษไชยชาญ จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันรวมกว่า 10,000 ไร่ กำลังประสบปัญหาน้ำในคลองบางปลาหมูแห้งขอด จนต้นข้าวนาปรังอายุกว่า 1 เดือน กำลังจะแห้งตาย
นางบุญทิ้ง สมบุญนาค อายุ 53 ปี ชาวนา ต.โคกช้าง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตนเองทำนากว่า 50 ไร่ และเป็นการทำนาปรังรอบที่ 1 ของปีนี้ ต้องมาประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดน้ำทำนาปรัง ทั้งที่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวยังถูกกรมชลประทานผันน้ำเหนือหลากเข้ามาในทุ่ง ทำเป็นแก้มลิงรับน้ำท่วม แต่เพียงไม่กี่เดือนพื้นที่ซึ่งเคยถูกน้ำท่วมต้องมาแห้งแล้ง
“พวกเรายอมรับไม่ได้กับปัญหาดังกล่าว เพราะว่าตลอดทั้งปีแทบจะไม่มีช่วงเวลาให้พวกเราได้ใช้พื้นที่ทำนาปรังเลย หน้าน้ำ น้ำก็ท่วมหนัก หน้าแล้งก็ไม่มีน้ำไว้ทำนา หากเป็นเช่นนี้ พวกเราจะหากินได้อย่างไร และคิดว่าต่อไป หากกรมชลประทานไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้ พวกเราและชาวนาในพื้นที่คงต้องลุกขึ้นมาประท้วงบ้างเช่นกัน”
นางบุญทิ้ง กล่าวต่ออีกว่า อีกอย่างน้ำในแม่น้ำก็ตื้นเขินถูกทับถมไปด้วยดินโคลน เมื่อน้ำในแม่น้ำลำคลองแห้ง จึงมองเห็นว่าท้องน้ำลำคลองตื้นเขิน น่าจะมีการขุดลอกแม่น้ำลำคลองให้ลึก และกว้างขึ้นกว่าเดิม เพื่อเวลาหน้าน้ำจะได้รับน้ำได้ปริมาณมากป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้ และเมื่อถึงหน้าแล้งชานาก็มีน้ำทำนาได้ แต่ไม่เห็นมีหน่วยงานไหนเข้ามาดำเนินการเลย ทั้งกรมชลประทาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปล่อยให้น้ำในลำคลองแห้งขอดไปเฉยๆ ไม่ยอมใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส ขุดลอกคลองเสียใหม่ให้ลึก เพื่อรองรับหน้าน้ำจะได้กักเก็บน้ำไว้ได้ปริมาณเยอะไว้ใช้ในยามหน้าแล้ง แต่นี่ไม่เห็นมีหน่วยงานไหนเข้ามาใส่ใจดูแลเลย