ลำปาง - พบเด็กชายวัย 15 ป่วยเป็นเนื้องอกบนใบหน้าจนตาบอดแล้ว 1 ข้าง ต้องผ่าตัดมาแล้วนับ 10 ครั้ง เรียนแค่ ป.1 พ่อต้องเอาออกหลังถูกเพื่อนล้อ แต่สู้ชีวิต หาความรู้เองจนซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้สารพัดหาเงินเลี้ยงพ่อ ด้านชมรมมวยไทยเตรียมจัดมวยการกุศลหาเงินช่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ลำปางว่า ได้งไปตรวจสอบที่บ้านเช่าเลขที่ 400 หมู่บ้านมงคลกาญจน์ เทศบาลเมืองเขลางค์นคร ต.ปงแสนทอง อ.เมือง หลังได้รับแจ้งว่ามีเด็กชายวัย 15 ปีป่วยด้วยโรคเนื้องอกที่ใบหน้าจนตาบอด แต่สู้ชีวิต ทำงานหาเลี้ยงตัวเองและพ่อ โดยไม่ไปเป็นขอทาน
โดยพบว่ามีสภาพค่อนข้างทรุดโทรม มีสองพ่อลูกอาศัยอยู่ คือ นายวิสุทธิ์ กิมสุวรรณ อายุ 62 ปี และลูกชายคือ ด.ช.วสุ หรือน้องเอิร์ท กิมสุวรรณ อายุ 15 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคเนื้องอกที่ใบหน้า ทำให้ดวงตาด้านขวาปิด และต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง เนื่องจากก้อนเนื้อที่ใบหน้าจะพองโตขึ้นตลอดเวลา แพทย์จึงนัดผ่าตัดเป็นระยะ ซึ่งที่ผ่านมาก็เข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้อที่พองโตออกไปแล้วเกือบ 10 ครั้ง
โดยน้องเอิร์ทใช้ความสามารถที่ถนัดด้านอิเล็กทรอนิกส์หาเงินเพื่อให้ตัวเอง และพ่อได้มีกินมีใช้
นายวิสุทธิ์เล่าว่า ก่อนหน้าที่จะต้องมาเช่าบ้านอยู่กับลูกชายแบบนี้เคยทำงานอยู่ประเทศออสเตรเลีย แต่เมื่อแม่เจ็บป่วยจึงกลับมาประเทศไทย ต่อมาแม่ได้เสียชีวิตจึงนำบ้านและทรัพย์สินไปเข้าธนาคารเพื่อนำเงินออกมาลงทุนทำธุรกิจด้านรับเหมาระบบไฟฟ้า แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดเนื่องจากถูกโกง จึงทำให้ทั้งบ้าน ที่ดิน และทรัพย์สินอื่นถูกยึดทั้งหมด จึงต้องมาเช่าบ้านอยู่ แต่ก็ไม่มีทุนทรัพย์ได้แต่รับจ้างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า
ส่วนลูกชายเมื่อเกิดมาก็พบว่าเป็นโรคดังกล่าวแล้ว ภรรยาก็เสียชีวิตไปตั้งแต่ลูกชายอายุได้แค่ 7 เดือน จึงต้องดูแลและพาลูกไปรักษาตลอดมา หาเงินมาได้ก็หมดไปกับค่ารักษา เพราะต้องพาเข้ารับการผ่าตัดเป็นระยะ จนถึงปัจจุบันก็ยังต้องเข้ารับการผ่าตัดอยู่ แต่ตาลูกมองเห็นเพียงข้างเดียว กะโหลกศีรษะด้านขวาก็ถูกผ่าตัดออกไป
แต่ความจำและความคิดสติปัญญาของลูกดีมาก ทั้งที่เรียนแค่ชั้น ป.1 เท่านั้น เนื่องจากตอนเด็กตนพาลูกเข้าโรงเรียนแต่ลูกก็ถูกเพื่อนในโรงเรียนล้อ และแกล้งจนไม่สามารถเข้าเรียนได้ แต่ก็ไม่ทิ้งความพยายาม คอยค้นคว้าหาความรู้ตลอด แม้แต่ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์ก็เช่นเดียวกัน ตนสอนให้บ้าง นอกจากนั้นลูกชายมักจะเข้าไปค้นคว้าจากร้านอินเทอร์เน็ต จนสามารถซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี ดีวีดี ตู้เย็น พัดลม โทรศัพท์มือถือได้โดยที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนเลย
“ผมก็สงสารลูก แต่ก็ยังดีใจที่ลูกไม่เคยคิดน้อยเนื้อต่ำใจ และมีจิตใจเข้มแข็ง ทำงานทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูตนเอง และพ่อ”
ทั้งนี้ ปัจจุบันตนได้รับเบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 600 บาท ลูกชายได้รับเบี้ยคนพิการเดือนละ 500 บาท นอกจากนั้นตนและลูกชายก็จะตระเวนตามร้านรับซื้อของเก่าเพื่อขอซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียแล้ว ราคาประมาณเครื่องละ 100-200 บาท เอามาซ่อมและขายต่อ หากขายไม่ได้ก็จะนำมาแกะเอาชิ้นส่วนเพื่อเก็บไว้เป็นอะไหล่ซ่อมอุปกรณ์ตัวอื่นต่อไป
“ทุกวันนี้หากไปซื้อของเก่าได้ก็มีรายได้ แต่บางวันก็ไม่ได้เลย ตอนนี้อยากได้ทุนสักก้อนเพื่อซื้อรถมอเตอร์ไซค์เก่าและพ่วงข้างเพื่อออกไปหาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าตามบ้านเรือนของประชาชนแล้วนำมาซ่อมขาย แต่ทุกวันนี้ทำไม่ค่อยได้เนื่องจากไม่มีเงิน รถที่ใช้ก็อยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก”
เมื่อถามว่าเห็นคนพิการส่วนใหญ่มักจะออกไปขอทาน ทำไมไม่ใช้วิธีนั้นเพราะไม่ต้องลงทุนอะไร นายวิสุทธิ์นิ่งไปชั่วครู่แล้วตอบว่า ถึงจะไม่มีกินเลย ตนกับลูกชายก็คงไม่ออกไปขอทานแน่นอน เพราะคนเราทุกคนต้องมีศักดิ์ศรี ตราบใดที่เรายังมีแรง มีสมองที่จะทำงานได้ แม้จะไม่ได้มากก็ต้องทำ สำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน จะมีค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ประมาณเดือนละ 1,000 บาท อาหารก็กินเฉพาะให้อยู่ได้ ไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก กินเท่าที่มี
และด้วยความกตัญญูและดิ้นรนต่อสู้กับชีวิตแบบไม่ย่อท้อ ทำให้ในขณะนี้ทางชมรมมวยไทยอาชีพ จ.ลำปาง ได้ร่วมกับภาคเอกชนหลายส่วนจัดมวยการกุศลขึ้นในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ณ เวทีมวยดนูดลสเตเดี้ยม ถนนเลี่ยงเมือง ต.ชมพู อ.เมือง จำหน่ายบัตรใบละ 100 บาท เพื่อนำเงินรายได้ที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดมอบแก่ครอบครัวน้องเอิร์ท
สำหรับผู้ต้องการให้ความช่วยเหลือครอบครัวน้องเอิร์ท ร่วมสนับสนุนโดยการซื้อบัตรเข้าชมการชกมวย หรือร่วมบริจาคหน้างานได้ หรือจะบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ นายวิสุทธิ์ กิมสุวรรณ ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้โลตัสปงสนุก หมายเลขบัญชี 624-7-01250-0 หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่คุณพนมวน 08-6118-8131