บุรีรัมย์ - เกิดเหตุสลด! ส.อบต.สวายจีกถอยรถกระบะออกจากใต้ถุนบ้านจะไปส่งค่างวด ไม่ทันเห็นหลานสาววัยขวบเศษวิ่งมาท้ายรถ เหยียบศีรษะเสียชีวิตคาที่ ขณะพ่อแม่หนูน้อยเคราะห์ร้ายออกไปทำงาน ทิ้งลูกให้อยู่กับยายทวดวัย 80 ปีตามลำพัง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (3 ก.พ.) พ.ต.ท.อดิชาติ มีสา สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุคนถอยรถยนต์ทับเด็กเสียชีวิต ที่ ต.สวายจีก จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง เลขที่ 23 หมู่ 6 บ้านหนองพลวง ต.สวายจีก พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูศพหนูน้อยเคราะห์ร้าย ทราบชื่อภายหลังคือ ด.ญ.ศิริรุ่งอรุณ โกเทวิปู หรือน้องแตงกวา อายุ 1 ขวบ 5 เดือน ที่ชาวบ้านอุ้มมาไว้บนเตียงใต้ถุนบ้าน สภาพสวมเสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงลายสีชมพู ศีรษะและใบหน้าบิดเบี้ยวจากการถูกล้อรถทับ และมีเลือดไหลนองพื้น สร้างความสลดใจแก่ชาวบ้านที่มามุงดูเป็นอย่างมาก
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ที่ขับรถทับน้องแตงกวา คือ นายประเสริฐ กาศรัมย์ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นสมาชิก อบต.สวายจีก และมีศักดิ์เป็นลุงของผู้ตาย ยืนอยู่ข้างศพในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้ถอยรถกระบะ อีซูซุ สีเขียว ทะเบียน บน 9759 บุรีรัมย์ ออกจากใต้ถุนบ้านเพื่อจะไปชำระค่างวดรถคันดังกล่าวในตัวเมืองบุรีรัมย์
ขณะที่ถอยไม่ทันสังเกตว่าหลานสาววิ่งมาอยู่ท้ายรถ เพราะเข้าใจว่าหลานอยู่กับยาย กระทั่งถอยออกไปยังหน้าบ้านแล้วจึงหันมาเห็นหลานสาวนอนอยู่กับพื้นดินด้านหน้ารถ ในสภาพเลือดอาบทั้งตัว ด้วยความตกใจจึงรีบอุ้มหลานมาไว้บนเตียง แต่พบว่าหลานได้เสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุนายวิโรจน์ และนางดุนนี โกเทวิปู พ่อแม่ของน้องแตงกวาออกไปทำงานรับจ้าง ปล่อยให้ลูกอยู่กับนางตุ้ม โกเทวิปู อายุกว่า 80 ปี ซึ่งเป็นยายทวดเพียงลำพัง ทำให้เกิดเหตุสลด และเป็นอุทาหรณ์สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กด้วย
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เหตุสลดดังกล่าวน่าจะเกิดจากความประมาทที่คนขับถอยรถไม่ระมัดระวัง ประกอบกับบริเวณหน้าบ้านเป็นเนิน ทำให้ช่วงที่ถอยรถจะไหลลงมาเร็วกว่าปกติจึงทำให้เกิดเหตุสลดใจขึ้น อย่างไรก็ตาม จะได้สอบสวนผู้เกี่ยวข้องและพ่อแม่เด็กอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป