พิจิตร - กปน.เขต 1 เมืองชาละวันแห่ลาออกกะทันหันเกือบร้อยคนแล้ว แถมแจ้งเหตุผลต้องการให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง-กลัวไม่ปลอดภัย ด้าน กกต.ขอ อสม.-ครูทำหน้าที่แทน เบื้องต้นยังถูกปฏิเสธ
วันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความพยายามของ กกต.พิจิตรที่จะจัดการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 ก.พ.เริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากชาวบ้านที่เคยอาสา หรือได้รับการคัดเลือกให้มาเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เขต 1 ได้ขอลาออกแล้ว 86 คน ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า อยากให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง และเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง ไม่มีความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และอีกหลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่เป็นหน่วยเลือกตั้งใน ต.ปากทาง อ.เมือง
ส่วนแนวทางแก้ปัญหานั้น กกต.พิจิตรคงทำได้เพียงประกาศรับสมัคร และเชิญชวนกลุ่ม อสม. ข้าราชการครู ให้มาเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง แต่เบื้องต้นได้ตอบปฏิเสธจากทุกองค์กร
สำหรับ จ.พิจิตรมี 3 เขตเลือกตั้ง มีผู้สมัคร 9 คน จาก 4 พรรค โดยเขต 1 ประกอบด้วย อ.เมือง (ยกเว้น 4 ตำบล) อ.วังทรายพูน อ.สากเหล็ก อ.ทับคล้อ หมายเลข 1 นายจรูญ พุ่มพฤกษ์ พรรคชาติพัฒนา หมายเลข 14 นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ พรรคชาติไทยพัฒนา หมายเลข 15 นางนริยา บุญเสรฐ พรรคเพื่อไทย ซึ่งบรรยากาศหาเสียงไม่คึกคัก มีเพียงรถแห่ไม่กี่คัน และมีป้ายของผู้สมัครไม่กี่ป้ายเท่านั้น โดยไม่มีการซื้อเสียงรายหัว มีแต่เพียงแกนนำระดับตำบลที่ถูกเรียกให้มารับนโยบาย หรือรับเงินที่เรียกว่า “น้ำจิ้ม”
เขต 2 ประกอบด้วย อ.เมือง 4 ตำบล ได้แก่ ต.ย่านยาว ต.คลองคะเชนทร์ ต.โรงช้าง ต.เมืองเก่า อ.วชิรบารมี อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.ตะพานหิน เฉพาะ 6 ตำบล ได้แก่ ต.วังสำโรง ต.ทับหมัน ต.วังหว้า ต.ห้วยเกตุ ต.คลองคูณ ต.ตะพานหิน เทศบาลเมืองตะพานหิน มีผู้สมัคร 2 คน และเป็นเขตที่มีการแข่งขันกันสูง คือ หมายเลข 1 พ.ต.อ.พิมล พรมใจบุญ พรรคชาติพัฒนา อดีต ผกก.สภ.สามง่าม หมายเลข 15 พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเสรฐ พรรคเพื่อไทย อดีตคนบ้านเลขที่ 111 และเคยเป็น ส.ส.ในเขต อ.ตะพานหิน อ.ทับคล้อ แต่คราวนี้ข้ามห้วยมาลงสมัครเขต 2
ส่วนเขต 3 ประกอบด้วย อ.ตะพานหิน (ยกเว้น 6 ตำบล) อ.บึงนาราง อ.โพทะเล อ.บางมูลนาก อ.ดงเจริญ ผู้สมัคร 4 คน หมายเลข 1 นายสำราญ จันทร์ทอง พรรคชาติพัฒนา หมายเลข 14 นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ พรรคชาติไทยพัฒนา หมายเลข 15 นายนาวิน บุญเสรฐ พรรคเพื่อไทย หมายเลข 31 นายสุรสิทธิ์ หะทะยัง พรรคเสียงประชาชน เขตนี้เป็นการสู้กันแบบฝุ่นตลบของนายศิริวัฒน์ กับนายนาวิน บุญเสรฐ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคู่กัดทางการเมืองมา 4-5 สมัย นับจากรุ่นพ่อมาสู่รุ่นลูก
