ชาวนาแปดริ้วเป่านกหวีดกลางเวทีที่ประชุม “แก้ไขปัญหาเงินจำนำข้าว”

ฉะเชิงเทรา - ชาวนาแปดริ้วฉุนควักนกหวีดเป่ากลางเวทีที่ประชุมการแก้ไขปัญหาการจ่ายเงินรับจำนำข้าวระดับจังหวัด ชี้เป็นเพียงการซื้อเวลาอยู่ต่อของรัฐบาล พร้อมเรียกร้องให้ชาวนาที่ไม่พึงพอใจให้ไปร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ

วันนี้ (23 ม.ค.) ที่ห้องประชุมบางแก้ว สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มตัวแทนชาวนาที่เตรียมตัวออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องขอเงินค่าข้าว ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ที่ยังคงติดค้างชาวนาในเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทา อยู่กว่า 3,145 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาได้มีการเตรียมตัวบุกเข้ายึดศาลากลาง และออกมาปิดถนนสาย 304 สุวินทวงศ์ (มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา) แต่ได้ถูกทางส่วนราชการ และทางจังหวัดได้ทำการขอร้องต่อบุคคลในระดับแกนนำของชาวนาในพื้นที่ไว้ และได้มีการนัดหมายให้ตัวแทนชาวนาในแต่ละพื้นที่ เดินทางมาเข้าร่วมประชุมรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวของทางจังหวัดในวันนี้

สำหรับตัวแทนชาวนานั้นมาจากในพื้นที่ อ.ราชสาส์น บางคล้า บางน้ำเปรี้ยว พนมสารคาม กว่า 200 คน เข้ามาร่วมรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาของทางจังหวัด โดยมี นายไพศาล วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายบำรุง เจียรมาศ การค้าภายใน จ.ฉะเชิงเทรา และนายชัยชนะ วาระเพียง ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ฉะเชิงเทรา รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นระดับจังหวัด (ส.อบจ.) เดินทางมาร่วมประชุม และเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้

ที่ประชุมนั้นทาง ธ.ก.ส.ฉะเชิงเทรา ได้เสนอที่จะให้ความช่วยเหลือด้วยการขยายหลักประกันเงินกู้ให้แก่เกษตรกรจากปกติเดิมนั้นให้เป็นแบบกรณีพิเศษ และให้มีวงเงินกู้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนโดยไม่มีดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน 5 หมื่นบาท แต่ในที่ประชุมได้มีตัวแทนระดับนักการเมืองท้องถิ่นเสนอว่า เงินจำนวนดังกล่าวนั้นไม่เพียงพอต่อการเยียวยาแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรรายที่ทำนาจำนวนมากได้

โดยเฉพาะผู้ที่ถือใบประทวนที่มีมูลค่าหลายแสนบาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินเพียงเล็กน้อยที่ไม่เพียงพอต่อการนำไปชำระหนี้สินของชาวนาที่ได้ไปกู้ยืมมาลงทุน

ด้านนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ฉะเชิงเทรา ที่ได้เข้ามาร่วมรับฟังการประชุมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอยู่ด้วยนั้น ได้เสนอให้ทาง ธ.ก.ส.ได้ขยายวงเงินกู้จาก 5 หมื่นบาท ให้เป็นเงินจำนวนที่สูงขึ้นเท่าที่จะสามารถอนุมัติได้ให้แก่ชาวนา โดยให้ใช้ใบประทวนเป็นหลักในการค้ำประกันวงเงิน ซึ่งแนวทางนี้จะได้ทำหนังสือไปถึงยังคนในระดับรัฐบาลตามลำดับ เพื่อให้ทาง ธ.ก.ส.สามารถอนุมัติเงินกู้ได้สูงสุดตามมูลค่าของใบประทวนให้แก่ชาวนาแต่ละราย

ในระหว่างที่มีการเจรจาเสนอแนวทางในการเยียวยาช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่กำลังเกิดขึ้นแก่เกษตรกรอยู่นั้น นายมานิตย์ เซ็นลา อายุ 45 ปี เกษตรกรชาวนา จากในเขตพื้นที่ ม.2 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งไม่ได้อยู่ในระดับแกนนำที่จะสามารถพูดแล้วมีคนสนใจฟังได้นั้น ได้ลุกขึ้นพร้อมส่งเสียงดังพูดขึ้นว่า

รัฐบาลชุดนี้ล้มเหลวแล้ว ทำไมข้าวเก็บไว้ตั้งมากมายในโกดังจึงส่งออกขายไม่ได้ ก็เอาข้าวที่มีอยู่ ที่เก็บไว้ในโกดังออกมาขายสิ จะได้มีเงินมาให้แก่ชาวนา และก็ไม่ต้องกู้ อยากถามว่าจะกู้ทำไม เพราะรัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ ฉะนั้นเราต้องออกไปประท้วง ก่อนที่จะเปล่านกหวีดใส่คณะกรรมการข้าวระดับจังหวัดที่มาจัดการประชุม และเดินออกจากห้องประชุมไป

นายมานิตย์ กล่าวภายหลังว่า ในเมื่อ ธ.ก.ส.เขาก็ใส่ชุดดำประท้วงอยู่แล้ว โดยจะไปกู้เขาได้อย่างไร การเรียกมาประชุมในครั้งนี้ถือเป็นการทำการประชุมแบบขอไปที เสียเวลามานั่งประชุมด้วย เมื่อได้รับฟังแนวทางจากในที่ประชุมแล้วรู้สึกเดือดโมโหจึงได้ลุกขึ้นพูด และเป่านกหวีดแล้วจึงเดินลงมา โดยตนทำนา 2 คนกับน้องชายเกือบ 100 ไร่ รวมเป็นเงินที่รอการจ่ายจากรัฐบาลเกือบ 1 ล้านบาท ได้นำข้าวเข้าโครงการในวงรอบการรับจำนำ ปี 55/56 เมื่อเดือน ส.ค.56 ที่ผ่านมา ผ่านมากว่า 5 เดือนแล้วก็ยังไม่ได้รับเงินค่าข้าว ขณะนี้จึงเดือดร้อนอย่างมาก

และขอถามว่าเงินค่าข้าวตามโครงการรับจำนำ ปี 55/56 ยังไม่ได้จ่าย แต่มีบางคนที่เอาข้าวเกี่ยวทีหลังของปี 56/57 ไปเข้าโครงการกลับจะจ่ายก่อน จึงอยากจะถามว่าทำไม่จ่ายของเก่าก่อน

ขณะนี้ทางรัฐบาลทำอะไรอยู่ มีข้าวอยู่ในโกดังตั้งเท่าไหร่ ไม่ต้องไปนั่งกู้เลย ขายข้าวออกไปแล้วเอาเงินมาจ่ายให้แก่ชาวนาได้แล้ว จะไปกู้มาทำไม ถามว่ากู้มาแล้วใครรับผิดชอบคนทั้งประเทศต้องมารับผิดชอบนั่งรับใช้หนี้แทน แสดงว่ารัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ คุณเป็นรัฐบาลคุณซื้อของจากประชาชนไป คุณต้องเอาออกไปขายให้ได้

นายมานิตย์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำนาอย่างเดียว ลูกก็ต้องเรียน ค่าใช้จ่ายเต็มไปหมด ต้องมีภาระรับผิดชอบอย่างมากมายในครอบครัว จำนำข้าวตั้งแต่เดือน ส.ค.56 แล้วยังไม่ได้เงิน แล้วรัฐบาลมาทำอย่างนี้ แสดงว่ารัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ จึงอยากให้ชาวนาที่ยังไม่ได้เงินค่าข้าวทั้งหมดนี้ออกไปประท้วงกันให้หมด วันนี้ตั้งใจจะมาฟังเขา แต่มันอดพูดไม่ได้เพราะมันคับแค้นอยู่ในใจ

ขณะที่ นายซอบีรี แชเปีย อายุ 52 ปี ชาวนา ม.13 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ในที่ประชุมเสนอให้ ธ.ก.ส.ปล่อยเงินกู้ให้แก่ชาวนาเต็มวงเงิน จึงอยากถามว่า จะไปกู้ให้เสียดอกเบี้ยทำไม ก็เอาเงินที่จะให้กู้มาจ่ายให้แก่ชาวนาเสียเลยสิ จะได้ไม้ต้องเสียดอกเบี้ย