ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “หลินฮุ่ย” ระดับฮอร์โมนใกล้แตะจุดต่ำสุด คาดเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการตั้งท้อง เหลือแค่รอลุ้นจะออกลูกหรือไม่ เตรียมทำอัลตราซาวนด์พรุ่งนี้ (23 ม.ค.) ตรวจดูพัฒนาการตัวอ่อน
วันนี้ (22 ม.ค.) นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์วิจัยและการศึกษา องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ หัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยความคืบหน้าการตั้งท้องวันที่ 115 ของ “หลินฮุ่ย” แม่หมีแพนด้าของสวนสัตว์เชียงใหม่ว่า ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจากการเก็บตัวอย่างปัสสาวะของหลินฮุ่ยไปตรวจวันนี้อยู่ที่ 46 นาโนกรัมต่อมิลลิกรัมคริเอตินิน ลดลงจากวานนี้ที่อยู่ที่ 75 นาโนกรัมต่อมิลลิกรัมคริเอตินิน ซึ่งระดับฮอร์โมนในตอนนี้ถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดที่จะอยู่ในช่วง 0-40 นาโนกรัมต่อมิลลิกรัมคริเอตินิน ที่เป็นค่าเฉลี่ยปกติในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาของหลินฮุ่ย โดยในช่วง 2-3 วันนี้จะต้องมีการจับตาดูพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดต่อไปว่านับจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร มีอาการกระวนกระวาย เบ่งช่องคลอด และเลียอวัยวะเพศมากขึ้นหรือไม่
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อครั้งที่ “หลินฮุ่ย” ตั้งท้องและออกลูก “หลินปิง” นั้น ระดับฮอร์โมนได้ลดลงก่อนที่หลังจากนั้นจะดีดตัวเพิ่มสูงขึ้น แล้วก็มีการออกลูกหลินปิงเลย ดังนั้นในการตั้งท้องครั้งนี้อาจจะเทียบเคียงกับการตั้งท้องครั้งก่อนได้ ซึ่งจะต้องจับตาดูแลเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นในช่วงนี้ หากระดับฮอร์โมนมีการปรับสูงขึ้นอีกก็มีความเป็นไปได้อย่างมากที่หลินฮุ่ยอาจจะออกลูกมาในไม่กี่วัน แต่ถ้าหากระดับฮอร์โมนลดต่ำลงไปอีกก็มีความเป็นไปได้ที่คงจะต้องยอมรับว่าการตั้งท้องในครั้งนี้จะไม่ได้จบลงด้วยการออกลูก และหลินฮุ่ยกลับสู่ภาวะปกติ
สำหรับพฤติกรรมอื่นๆ ของหลินฮุ่ยนั้น ยังคงแสดงออกถึงการตั้งท้องอยู่ ทั้งการเลียอวัยวะเพศ การทำรังสลับกับการกินอาหารและนอนหลับ รวมทั้งพบว่าเต้านมมีการขยายตัว และที่ช่องคลอดมีเมือกไหลออกมา โดยสังเกตพบว่าหลินฮุ่ยให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการทำรังในส่วนจัดแสดง ซึ่งพี่เลี้ยงได้ทดลองใบไผ่ให้กิน ปรากฏว่าหลินฮุ่ยได้กินอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมทั้งนำบางส่วนไปทำรังด้วย
ขณะเดียวกัน นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตรเปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) ทีมงานสัตวแพทย์เตรียมที่จะทำการอัลตราซาวนด์หลินฮุ่ยด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีอยู่ เพื่อตรวจดูพัฒนาการของตัวอ่อนในท้องของหลินฮุ่ย ซึ่งจะมีการเปิดเผยผลการตรวจให้ทราบภายหลัง