เพชรบูรณ์ - ตำรวจบอก ชาวนาเมืองมะขามหวานถอนตัวแล้ว 2 ราย เลิกแจ้งความจับ “ปู-บุญทรง-กิตติรัตน์” บอกแค่มาชุมนุมทวงเงินจำนำข้าว พร้อมเตรียมเรียกสอบ 13 ชาวนาต่อทีละคนวันนี้
รายงานข่าวจากจังหวัดเพชรบูรณ์แจ้งว่า หลังเกษตรกรชาวนาเพชรบูรณ์จำนวน 15 ราย มอบหมายนายเสถียร เม่นบางผึ้ง ประธาน กปปส.เพชรบูรณ์ นำหลักฐานการแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.นิวัฒน์ คัณธานันท์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ วานนี้ (20 ม.ค.) ท่ามกลางม็อบชาวนาที่รวมตัวชุมนุมเรียกร้องเงินจำนำข้าวที่รัฐบาลค้างจ่ายมานาน เป็นสักขีพยาน เพื่อให้ดำเนินคดีต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
โดยทั้งสามคนได้แสดงข้อความอันเป็นเท็จ โดยแจ้งแก่ชาวนาให้นำข้าวเปลือกไปจำนำต่อองค์การตลาดเพื่อการเกษตร และองค์การคลังสินค้า ทำให้ชาวนาหลงเชื่อจึงนำข้าวเปลือกไปจำนำที่โรงสีวิบูลย์ชัย ต.วังชมภู อ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยผู้ถูกกล่าวหารู้อยู่แล้วว่าไม่มีเงินชำระค่าจำนำข้าวเปลือกแก่ผู้กล่าวหาได้ จึงเป็นการหลอกลวงประชาชนโดยปกปิดความจริง จึงเป็นการได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้กล่าวหา อันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
ล่าสุด พ.ต.ท.นิวัฒน์ คัณธานันท์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ แจ้งว่า มีเกษตรกร 2 ราย ได้แก่ นายประจักษ์ บุญเลี้ยง ชาวนาตำบลวังชมภู และนายสว่าง เกษียร ชาวนาตำบลนาป่า ได้แจ้งไม่ประสงค์ดำเนินคดีต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายบุญทรง และนายกิตติรัตน์ ในข้อหาฉ้อโกงเงินค่าจำนำข้าวชาวนาแล้ว
พ.ต.ท.นิวัฒน์กล่าวว่า ทั้งสองให้ปากคำว่าเพียงต้องการมาชุมนุมและทวงเงินค่าจำนำข้าวเท่านั้น แต่ที่เซ็นชื่อในเอกสารร่วมแจ้งความลงไปนั้นเพราะมีการพิมพ์ไว้ก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นความประสงค์ของผู้เสียหาย ทางตำรวจก็ยังต้องสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่เหลือก็จะติดต่อมาให้ปากคำในวันนี้
“ส่วนที่มักอ้างว่าการสอบปากคำของพนักงานสอบสวนมีความล่าช้านั้น ผมต้องสอบทีละคน โดยเรียงลำดับรายชื่อผู้กล่าวหาลงไป และระหว่างสอบปากคำผู้กล่าวหาในปากแรกทางผู้เสียหายรายอื่นก็แจ้งขอกลับก่อน ซึ่งผมก็ยังย้ำว่าจะติดต่อกลับไปในภายหลัง”
พ.ต.ท.นิวัฒน์กล่าวว่า ตอนนี้ (20 ม.ค.) ก็มีชาวนาผู้เสียหายเพียง 13 คนเท่านั้นที่เดินทางมาพบ และหลักฐานที่ได้รับมอบมาก็มีเพียง 14 คน ในขณะที่มีการแจ้งชื่อผู้เสียหายไว้ 15 คน