ม็อบชาวนาบุรีรัมย์ยกระดับปิดถนนหน้าศูนย์ราชการ ปักหลักยืดเยื้อ-ตร.ตรึงเข้ม

บุรีรัมย์ - ม็อบชาวนาบุรีรัมย์ทวงจำนำข้าวจากรัฐบาลค้างจ่าย 5 พันราย กว่า 4 พันล้าน ยกระดับชุมนุมตั้งเวทีปิดถนน 226 สายบุรีรัมย์ -สุรินทร์ หน้าศูนย์ราชการจังหวัด พร้อมกางเต็นท์ปักหลักยืดเยื้อ หลังจังหวัดไม่ส่งตัวแทนเจรจาและให้คำตอบชัดเจน ขณะเกษตรกรจากหลายอำเภอทยอยสมทบต่อเนื่อง ด้าน ตร.ตรึงกำลังคุมเข้มศูนย์ราชการ ทั้งประตูเข้า-ออก ป้องกันเหตุรุนแรง

เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเกษตรกรจากทั้ง 23 อำเภอ จังหวัดบุรีรัมย์จำนวนหลายพันคน ที่มาชุมนุมประท้วงอยู่บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อทวงเงินในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2556/57 ที่รัฐบาลค้างจ่ายมากว่า 3-4 เดือน ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ยกระดับการชุมนุมโดยการจัดตั้งเวทีปิดถนนสายเลี่ยงเมือง หมายเลข 226 บุรีรัมย์-สุรินทร์ ด้านหน้าศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ แล้ว 2 ช่องจราจร จากทั้งหมด 4 ช่องจราจร พร้อมทั้งมีการกางเต็นท์ นำเสบียงอาหาร น้ำดื่มมาปักหลักชุมนุมคาดว่าจะยืดเยื้อไมปจนถึงวันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.) หลังไม่ได้รับคำตอบชัดเจนจากทางจังหวัดว่าจะได้รับเงินในวันไหน เมื่อใด

โดยมีเพียง นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นตัวแทนมาสอบถามความเดือดร้อนของเกษตรกรที่มาชุมนุมเท่านั้น แต่ไม่สามารถให้คำตอบตามที่กลุ่มเกษตรกรเรียกร้องได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ได้มีการตรึงกำลังทั้งบริเวณทางขึ้น และประตูเข้า-ออกศูนย์ราชการอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปภายในอาคาร ทั้งป้องกันกลุ่มมือที่สามหรือผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์รุนแรงหรือก่อเหตุความวุ่นวายที่อาจจะสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของทางราชการได้ ทั้งนี้ ยังมีรถแพทย์ พยาบาล มาประจำอยู่ยังจุดชุมนุมด้วย

นายสมบูรณ์ กลั่นประโคน อายุ 46 ปี เกษตรกรบ้านศรีสมบูรณ์ ต.เมืองฝาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ บอกว่า สาเหตุที่มาชุมนุมในครั้งนี้เพราะได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่นำข้าวไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำของรัฐบาลแล้วแต่กลับไม่ได้รับเงินทำให้ไม่มีเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว และชำระหนี้สิน ซ้ำขณะนี้ยังมีใบทวงหนี้ที่ไปกู้ยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาลงทุนทำนา จนต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาใช้จ่ายและส่งดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. สร้างความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินจำนำข้าวที่ค้างจ่ายโดยเร็วด้วย

ด้าน นายรำพึง ปะรินรัมย์ อายุ 62 ปี เกษตรกรชาวนา บ้านม่วง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตนมาวันนี้ต้องการให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงิน หากไม่มีเงินจ่ายจำนำข้าว มาหลอกชาวนาให้เอาข้าวไปจำนำทำไม จะได้เอาข้าวไปขายโรงสี นำเงินไปชำระหนี้ทั้ง ธ.ก.ส. และค่าฌาปนกิจสงเคราะห์ เขาก็ทวงมายังไม่ได้จ่าย หากรัฐบาลจะโกงชาวนาก็บอกมาเลย

ขณะที่ นายสมชาย ภิรมย์ชาติ แกนนำเกษตรกรที่มาชุมนุม บอกว่า การมาชุมนุมประท้วงในครั้งนี้เพื่อกดดันให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวให้เกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินโดยเร็ว แต่หากทางจังหวัดหรือรัฐบาลยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน หรือไม่สามารถจ่ายเงินให้เกษตรกรได้ตามข้อเรียกร้องก็พร้อมจะยกระดับการชุมนุมขึ้นอีก โดยการปิดถนนทั้ง 4 ช่องจราจร และปักหลักชุมนุมยืดเยื้อจนกว่าจะได้รับเงิน

ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าขณะนี้องค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อการเกษตรได้รับจำนำข้าวจากเกษตรกร จ.บุรีรัมย์ และออกใบประทวนไปแล้วรวม 291,118 ตัน ในจำนวนนี้เกษตรกรได้นำใบประทวนไปขึ้นเงินที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขาในเขตพื้นที่จังหวัดแล้ว 60,546 ราย ปริมาณข้าว 272,979 ตัน คิดเป็นยอดเงินกว่า 5,157 ล้านบาท แต่ขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้รับการจัดสรรเงินมาเพียง 1,051.49 ล้านบาท และได้จ่ายเงินให้เกษตรกรไปแล้วรวม 10,233 ราย วงเงินกว่า 984.43 ล้านบาท ส่วนเกษตรกรที่เหลืออีก 50,313 ราย วงเงินกว่า 4,173 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอการจัดสรรงบจากรัฐบาล