อุดรธานี - ตำรวจอุดรธานี รวบอดีตลูกน้องแสบ ยกเค้าร้านไอทีนายจ้างหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท สารภาพต้องการเงินซ่อมรถ
วันนี้ (25 ธ.ค.) พ.ต.อโกวิท เจริญวัฒนศักิด์ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ บุญโชติ รอง ผกก.สส.สภ.เพ็ญ ช่วยราชการงานสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ชลธิชา อักษร สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี ช่วยราชการงานสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกุหลาบดง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายอาทิตย์ รอตรังษี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 3 ต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี
พร้อมของกลางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลายรายการ เช่น โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ จอคอมพิวเตอร์ เคสคอมพิวเตอร์ เมนบอร์ด CPU ฮาร์ดดิส และรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิร่า สีขาว หมายเลขทะเบียน กธ 4295 อุดรธานี ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับผู้คุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ โดยใช้พาหนะเพื่อสะดวกในการหลบหนี หรือรับของโจร
พ.ต.อโกวิท เจริญวัฒนศักิด์ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก นายภาคิน จิตร์เจริญกุล อายุ 34 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 23 แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร เจ้าของร้านเรดไอที เลขที่ 24 ซ.ทองคำอุทิศ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้เสียหาได้เข้าแจ้งความว่า มีคนร้ายได้ไขกุญแกเข้าไปขโมยเอาทรัพย์สินภายในร้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 500,000 บาท แล้วหลบหนีไป
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุในการลักทรัพย์ครั้งนี้คือ นายอาทิตย์ รอตรังษี ซึ่งเป็นลูกจ้างเก่า จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 26/95 ซอยบ้านม่วง อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งนายอาทิตย์ ได้มาเปิดร้านเกม และอินเทอร์เน็ตอยู่
จากการตรวจสอบพบกล่องกระดาษขนาดใหญ่บรรจุสิ่งของอยู่ภายใน ปิดทับด้วยกระดาษกาวอย่างดี เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบภายในกล่องกระดาษดังกล่าว พบว่า ภายในบรรจุอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวนมาก ทั้งนี้ นายอาทิตย์ ให้การวกไปวนมาสุดท้ายรับการสารภาพว่า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ดังกล่าวได้ไปขโมยมา และของอีกจำนวนหนึ่ง จึงนำตัวพร้อมของกลางมายัง สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายอาทิตย์ ให้การรับสารภาพว่า ต้องการเงินมาซ่อมรถยนต์จึงได้เข้าไปลักทรัพย์สินทั้งหมดภายในร้านของผู้เสียหาย โดยได้เอากุญแกที่ร้านไปก๊อบไว้ตั้งแต่สมัยที่เคยอยู่ในร้ายดังกล่าว เมื่อสบโอกาสจึงได้ขับรถเข้าไปงัดเอาทรัพย์สินที่ร้านของผู้เสียหายเพื่อนำไปขาย
