ชาวบ้านโวยแก๊งขอทานเขมรเกลื่อนระยอง ไร้ จนท.จับกุม

ระยอง - ชาวบ้านในเมืองระยอง โวยแก๊งขอทานชาวเขมรเกลื่อนตลาดนัดสตาร์กลางเมืองระยอง สร้างความรำคาญแก่นักท่องเที่ยว โดยไร้เจ้าหน้าที่จับกุม

วันนี้ (19 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีขอทานต่างด้าวชาวกัมพูชาออกมาขอทานในตลาดนัดสตาร์ พลาซ่า อ.เมือง จ.ระยอง จึงได้เข้าตรวจสอบและประสานงาน พ.ต.ท.มานิตย์ บุญมาเลิศ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองระยอง พร้อมด้วย ร.ต.ต.สุโรม แก้วใส รอง สวป.สภ.เมืองระยอง เข้ากวาดล้างจับกุม เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุมแก๊งขอทานที่แต่งตัวลักษณะคล้ายคนป่วยพิการนั่งขอทานนับ 10 คน แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนพิการเหล่านั้นกลับกลายเป็นนักวิ่ง และวิ่งหลบหนีไปได้กว่า 10 คน สร้างความประหลาดใจแก่แม่ค้า และนักท่องเที่ยวที่กำลังจับจ่ายซื้อสินค้าอยู่ เจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมขอทานแม่ลูก และยาย จากนั้นได้ไปที่ห้องพักที่ชุมชนบ่อนไก่ หลังโรงแรมสตาร์ พลาซ่า และนำตัวต่างด้าวดำเนินคดีเพื่อผลักดันกลับประเทศต่อไป

นางสมใจ ใจดี อายุ 40 ปี แม่ค้าในตลาดเปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพขายของตามตลาดนัดต่างๆ และจะมาขายของในตลาดนัดที่สตาร์ พลาซ่า ในวันจันทร์ และวันพฤหัสบดี มักจะเห็นขอทานต่างด้าวมีทั้งพิการ และคนแก่ เด็ก มานั่งขอทานตามทางเดินอยู่เป็นประจำ ซึ่งก่อความรำคาญแก่ผู้ที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้า และเห็นภาพแบบนี้เป็นประจำทุกครั้ง โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เข้ามากวดขันจับกุมแต่อย่างใด ทั้งที่มีการร้องเรียนจากชาวบ้านอยู่เป็นประจำ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการจับกุมตามตลาดนัดที่มีคนพลุกพล่านให้หมดไป

ด้าน พ.ต.ท.มานิตย์ บุญมาเลิศ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองระยอง กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับร้องเรียนว่ามีขอทานต่างด้าวชาวกัมพูชาออกมาขอทานในตลาดนัดสตาร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะมีตลาดนัดในวันจันทร์ และวันพฤหัสบดี ก่อความรำคาญให้นักท่องเที่ยว และผู้ที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสามารถจับกุมนางพาลัย อายุ 40 ปี พร้อมกับลูกอีก 3 คน และยายหน่อ อายุ 89 ปี ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา

จากนั้นได้ไปตรวจสอบภายในห้องเช่าเลขที่ 094 /8 ในชุมชนบ่อนไก่ หลังโรงแรมสตาร์ พลาซ่า ซึ่งพักอยู่กับนางเต้ย พิมมณี อายุ 53 ปี ชาวไทยซึ่งป่วยเป็นอัมพาต โดยนางพาลัย ได้เช่าห้องในราคา 800 บาท และดูแลนางเต้ย ที่ป่วยเป็นอัมพาตด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ขอทานดังกล่าวไม่มีพาสปร์อต และใบอนุญาตการทำงานในประเทศไทยจึงได้ดำเนินคดี และผลักดันส่งกลับประเทศต่อไป