ผวาไม่ได้เงิน ชาวนาบุรีรัมย์ยอมขายข้าวราคาถูกแทนจำนำรัฐบาล

บุรีรัมย์ - ชาวนาบุรีรัมย์กว่า 30% เปลี่ยนใจขายข้าวแทนเข้าร่วมโครงการจำนำของรัฐบาล หวั่นไม่ได้เงินหรือได้ช้าไม่ตรงตามกำหนดหลังรัฐบาลประกาศยุบสภาแม้ได้ราคาต่ำ ขณะเกษตรกรหลายรายที่นำใบประทวนไปขึ้นเงินต่อ ธ.ก.ส.นานกว่า 1 เดือนแล้วยังไม่ได้เงิน เดือดร้อนหนักไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างเก็บเกี่ยว และใช้จ่ายในครอบครัว

วันนี้ (12 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรบุรีรัมย์ จำกัด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ยังมีเกษตรกรจากหลายอำเภอนำรถบรรทุกข้าวเปลือกมาเข้าคิวรอเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวนาปี ปีการผลิต 2556/57 วันละกว่า 100 ราย แต่ในจำนวนนี้มากกว่าร้อยละ 30 ได้ตัดสินใจขายแทนการเข้าร่วมโครงการรับจำนำของรัฐบาล เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับเงินหรือได้รับเงินล่าช้าไม่ตรงตามกำหนด หลังนายกรัฐมนตรีได้ประกาศยุบสภา ทำให้มีเพียงรัฐบาลรักษาการจึงเกิดความไม่มั่นใจ ถึงแม้ราคาซื้อขายจะต่ำกว่าราคาจำนำ โดยราคาขายข้าวเปลือกหอมมะลิตามท้องตลาดอยู่ที่ประมาณตันละไม่เกิน 16,000 บาท ต่างจากราคารับจำนำในโครงการฯ อยู่ที่ตันละ 20,000 บาท หรือเพิ่มลดตามเปอร์เซ็นต์ต้นข้าว

นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรหลายรายที่นำข้าวไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำแบบใบประทวนตามจุดรับจำนำต่างๆ และได้นำใบประทวนไปขึ้นเงินต่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดนานกว่า 1 เดือนแล้วยังไม่มีเงินโอนเข้าบัญชี ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเพราะส่วนใหญ่ต้องนำเงินไปจ่ายค่าจ้างแรงงาน ค่ารถเก็บเกี่ยวข้าว และใช้จ่ายในครอบครัว จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรโดยเร็วด้วย

นางรุ่งอรุณ เชาวกรกุล ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรบุรีรัมย์ จำกัด กล่าวว่า ช่วงนี้ได้มีเกษตรกรนำรถบรรทุกข้าวมาเข้าคิวรอวันละกว่า 100 ราย แต่ในจำนวนนี้กว่าร้อยละ 30 ได้เปลี่ยนใจขายแทนการจำนำตามโครงการของรัฐบาล เนื่องจากเกรงจะมีปัญหาหรือได้รับเงินล่าช้า อย่างไรก็ตาม ทางชุมนุมสหกรณ์สามารถรับจำนำหรือรับซื้อได้ไม่เกินวันละ 200 ตัน เพราะมีข้าวของเกษตรกรหลายรายมีความชื้นสูงและข้าวแดงปน จึงได้แนะนำให้เกษตรกรตากข้าวให้แห้งก่อนนำมาขายหรือจำนำเพื่อไม่ให้ถูกหักค่าความชื้น