จันทบุรี-ประธานหอการค้าจังหวัดจันทบุรี แสดงความคิดเห็นรัฐบาลประกาศยุบสภาช้าเกินไป ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวชายแดน และธุรกิจกระทบอย่างหนัก
นายนันทชัย โรจน์วรรณสินธุ์ ประธานหอการค้าจังหวัดจันทบุรี ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการชุมนุมของประชาชน และการประกาศยุบสภาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าลักษณะการประกาศยุบสภาของรัฐบาลคราวนี้มันช้าไป เพราะตั้งแต่วันที่ 23 ที่ผ่านมา ที่มีผู้ชุมนุมออกมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก รัฐบาลน่าจะมีการประกาศยุบสภาตั้งแต่คราวนั้นแล้ว ความจริงในช่วงนั้นทางหอการค้าไทยก็เสนอว่าจะเป็นแกนกลางให้ทางรัฐบาลเลือกว่าจะยุบสภา หรือ ลาออก เพื่อให้สิ้นสุดการชุมนุมเรียกร้อง เพราะช่วงนั้นทางรัฐบาลเองได้ขาดความไว้วางใจจากประชาชนไปแล้ว
ที่ผ่านมา หอการค้าไทยเคยเสนอว่าจะเป็นแกนกลางให้มีการพูดคุยกัน เพราะว่าถึงรัฐบาลจะมีการยุบสภาไป ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่รัฐบาลชุดนี้ได้กลับเข้ามาอีกก็จะมีการเรียกร้องกันอีก ก็จะทำให้ไม่มีประโยชน์อะไรต่อการยุบสภาในครั้งนี้ ทั้งนี้ หากมีการพูดคุยกันจนมีการตกผลึกกันว่าจะมีการดำเนินกันไปทางไหน และเวลาเลือกตั้งใหม่การดำเนินการต่อไปก็จะไปได้ด้วยดี
แต่ว่าสิ่งนั้นมันได้ผ่านพ้นไปแล้ว พอมาตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่เรียกร้องรับบาลไม่เอารัฐบาลชุดนี้เป็นผู้บริหารประเทศแล้ว เพราะฉะนั้นถึงจะยุบสภาไปรัฐบาลก็ขาดความชอบธรรมไม่สมควรที่จะบริหารประเทศชั่วคราวอีก เพราะตรงนี้มันไม่ใช่เวลาของรัฐบาลตรงนี้แล้ว ตรงนี้คิดว่าประชาชนไม่ยอมแค่ตรงนี้ น่าจะเกินกว่านี้อาจจะต้องใช้วิธีอื่นมากกว่า
นายนันทชัย กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ในลักษณะเช่นนี้มันต้องดูข้อกฎหมายด้วยในการหาทางออกทางหอการค้าจังหวัดจันทบุรีเองในลักษณะของการปกครองของรัฐบาลในครั้งนี้ เนื่องจากมีการคอร์รัปชันกันเยอะในลักษณะการปกครองแบบมีการคอร์รัปชันมาก ซึ่งทางหอการค้าเองได้มีการต่อต้านการคอร์รัปชันมาโดยตลอด
ดังนั้น ในส่วนนี้ คือ รัฐบาลถ้าอยู่ต่อไปการลุกฮือของประชาชนมันก็จะไม่มีการหยุด ส่วนการชุมนุมที่เกิดขึ้นมากว่า 1 เดือนเศษ ส่งผลกระทบอย่างแน่นอนต่อภาคเอกชน ธุรกิจ ภาคท่องเที่ยวชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรีอย่างแน่นอน เพราะว่ามีการหยุดการทำงานในหลายๆ จุด โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวก็เสียหายไปมาก
ในความเป็นจริงรัฐบาลน่าจะเสียสละ เพราะว่าคนที่บริหารประเทศจะต้องคิดถึงชาติบ้านเมืองไว้ก่อน ไม่ใช่ไปคิดถึงแต่ตัวเอง และพวกพ้องซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง โดยรัฐบาลควรจะต้องเสียสละไปตั้งแต่แรกที่มีประชาชนออกมาเป็นจำนวนมากแล้ว
นายนันทชัย โรจน์วรรณสินธุ์ ประธานหอการค้าจังหวัดจันทบุรี ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการชุมนุมของประชาชน และการประกาศยุบสภาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าลักษณะการประกาศยุบสภาของรัฐบาลคราวนี้มันช้าไป เพราะตั้งแต่วันที่ 23 ที่ผ่านมา ที่มีผู้ชุมนุมออกมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก รัฐบาลน่าจะมีการประกาศยุบสภาตั้งแต่คราวนั้นแล้ว ความจริงในช่วงนั้นทางหอการค้าไทยก็เสนอว่าจะเป็นแกนกลางให้ทางรัฐบาลเลือกว่าจะยุบสภา หรือ ลาออก เพื่อให้สิ้นสุดการชุมนุมเรียกร้อง เพราะช่วงนั้นทางรัฐบาลเองได้ขาดความไว้วางใจจากประชาชนไปแล้ว
ที่ผ่านมา หอการค้าไทยเคยเสนอว่าจะเป็นแกนกลางให้มีการพูดคุยกัน เพราะว่าถึงรัฐบาลจะมีการยุบสภาไป ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่รัฐบาลชุดนี้ได้กลับเข้ามาอีกก็จะมีการเรียกร้องกันอีก ก็จะทำให้ไม่มีประโยชน์อะไรต่อการยุบสภาในครั้งนี้ ทั้งนี้ หากมีการพูดคุยกันจนมีการตกผลึกกันว่าจะมีการดำเนินกันไปทางไหน และเวลาเลือกตั้งใหม่การดำเนินการต่อไปก็จะไปได้ด้วยดี
แต่ว่าสิ่งนั้นมันได้ผ่านพ้นไปแล้ว พอมาตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่เรียกร้องรับบาลไม่เอารัฐบาลชุดนี้เป็นผู้บริหารประเทศแล้ว เพราะฉะนั้นถึงจะยุบสภาไปรัฐบาลก็ขาดความชอบธรรมไม่สมควรที่จะบริหารประเทศชั่วคราวอีก เพราะตรงนี้มันไม่ใช่เวลาของรัฐบาลตรงนี้แล้ว ตรงนี้คิดว่าประชาชนไม่ยอมแค่ตรงนี้ น่าจะเกินกว่านี้อาจจะต้องใช้วิธีอื่นมากกว่า
นายนันทชัย กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ในลักษณะเช่นนี้มันต้องดูข้อกฎหมายด้วยในการหาทางออกทางหอการค้าจังหวัดจันทบุรีเองในลักษณะของการปกครองของรัฐบาลในครั้งนี้ เนื่องจากมีการคอร์รัปชันกันเยอะในลักษณะการปกครองแบบมีการคอร์รัปชันมาก ซึ่งทางหอการค้าเองได้มีการต่อต้านการคอร์รัปชันมาโดยตลอด
ดังนั้น ในส่วนนี้ คือ รัฐบาลถ้าอยู่ต่อไปการลุกฮือของประชาชนมันก็จะไม่มีการหยุด ส่วนการชุมนุมที่เกิดขึ้นมากว่า 1 เดือนเศษ ส่งผลกระทบอย่างแน่นอนต่อภาคเอกชน ธุรกิจ ภาคท่องเที่ยวชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรีอย่างแน่นอน เพราะว่ามีการหยุดการทำงานในหลายๆ จุด โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวก็เสียหายไปมาก
ในความเป็นจริงรัฐบาลน่าจะเสียสละ เพราะว่าคนที่บริหารประเทศจะต้องคิดถึงชาติบ้านเมืองไว้ก่อน ไม่ใช่ไปคิดถึงแต่ตัวเอง และพวกพ้องซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง โดยรัฐบาลควรจะต้องเสียสละไปตั้งแต่แรกที่มีประชาชนออกมาเป็นจำนวนมากแล้ว
