แพร่/น่าน - “สุรยุทธ์ จุลานนท์” ขึ้นภูพยัคฆ์ ฐานที่มั่นพรรคคอมมิวนิสต์ฯในอดีต แนะสังคมใช้อดีตเป็นบทเรียน ใช้เหตุผลไม่ควรเสียเลือดเนื้อ เช่นเหตุการณ์ในอดีตที่คนไทยจับปืนสู้กันเอง ดั่งสนามรบที่ภูพยัคฆ์
รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มผู้พัฒนาชาติไทยและแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยจากทุกภาคของประเทศ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันจัดงานวันรำลึกเหตุการณ์สู้รบและฐานที่มั่น 708 ศูนย์กลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่ เทือกเขาภูพยัคฆ์ บ้านน้ำรี ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ระหว่าง 7-8 ธ.ค.56 ที่ผ่านมา โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ร่วมเป็นประธานในพิธี
พล.อ.สุรยุทธ์ ได้ร่วมทำบุญอุทิศสวนกุศลให้กับผู้ล่วงลับ ที่ต้องสูญเสียญาติพี่น้องไปกับการจับปืนสู้รบกันเองในอดีต และรำลึกถึงเหตุการณ์ความขัดแย้ง พร้อมทั้งได้ร่วมรับมอบสิ่งของจากผู้ร่วมงาน เพื่อนำไปมอบให้กับเด็กเยาวชนและผู้สูงอายุในบริเวณฐานที่มั่น และ การมอบทุนการศึกษาให้กับเยาวชน ก่อนเดินเยี่ยมชมภาพประวัติศาสตร์ความขัดแย้งและทักทายสหายที่มาร่วมงานจำนวนมาก
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ปีนี้เป็นงานรำลึกเหตุการณ์จับปืนขึ้นต่อสู้ระหว่างคนไทยด้วยกันที่ฐานที่มั่นศูนย์กลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่อนุสรณ์สถานพยัคฆ์แห่งนี้เป็นปีที่ 9 มีหลายหน่วยงานและเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามาร่วมงานรำลึกเป็นจำนวนมาก ถือว่า เป็นการจัดงานที่ประสบความสำเร็จและดำเนินไปด้วยดีแม้มีปัญหาอยู่บ้าง ซึ่งคณะกรรมการจัดงานคงจะมีการถอดบทเรียนเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาในปีต่อไป ปีหน้าเป็นปีที่ 10 ที่ได้ก่อตั้งอนุสรณ์สถานแห่งนี้ขึ้นมาถือเป็นวาระสำคัญ
วันนี้เป็นวาระหนึ่งที่พวกเราได้มารำลึกถึงญาติสนิทมิตรสหายของเราที่ต้องมาเสียเลือดเนื้อด้วยแนวคิดที่พวกเราเรียกว่า อุดมการณ์ เป็นสิ่งที่พวกเราจะได้นำบทเรียนที่เกิดขึ้นในอดีตมาแก้ปัญหาในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เกิดการต่อสู้ระหว่างคนไทยด้วยกันจะไม่เกิดขึ้นอีก ตนคิดว่าเราทุกคนคงไม่อยากเห็นการต่อสู้ด้วยความรุนแรงเสียเลือดเนื้อเช่นเหตุการณ์ในอดีตเกิดขึ้นในสมัยปัจจุบัน บทเรียนนั้นมีคุณค่า เพระฉะนั้นก็ขอให้ทุกท่านได้นำบทเรียนมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ให้ลูกหลานได้รับทราบ พวกเราจะได้สืบสานอุดมการณ์ ความรู้สึกและบทเรียน ที่เราได้รับเพื่อให้บ้านเมืองของเรามีความเจริญ มีการพัฒนาและมีความเจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต
ด้านนายแพย์ชลน่าน ศรีแก้ว นักการเมืองจากพรรคเพื่อไทย ที่เข้าร่วมงานด้วย ได้กล่าวต่อผู้ร่วมรำลึกฯ ว่า สังคมไทยต้องยอมรับความแตกต่างและอยู่ร่วมกันได้ ที่ผ่านมานักการเมืองมุ่งไปสู่การทำลายล้าง จะนำไปสู่จุดจบที่รุนแรง แต่เหตุการณ์ในวันนี้(9 ธ.ค.56)ยังมีข้อดีอยู่ว่า ทุกฝ่ายจะไม่ใช้ความรุนแรงโดยมองว่า ต้องไม่นองเลือด
นายสงวนศักดิ์ อัครวริยทวีชัย หรือสหายณรงค์ กล่าวว่าว่า เหตุการณ์ความขัดแย้งในอดีต จนทำให้มีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ มาจากความไม่เป็นธรรมในสังคมข้าราชการ นักการเมืองเอารัดเอาเปรียบประชาชน ทุจริต จนทำให้เกิดความขัดแย้ง จนมีการรวมตัวเพื่อจับอาวุธลุกขึ้นสู้กับอำนาจรัฐตั้งแต่ปี 2505 เป็นต้นมา ซึ่งในกลุ่มประชาชนที่จับปืนลุกขึ้นสู้กับอำนาจรัฐในสมัยนั้น มี พล.ท.โพยม จุลานนท์ บิดาของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เข้าเป็นแกนนำคนสำคัญ และต้องเสียชีวิตไปกับเหตุการณ์ความขัดแย้ง รวมทั้งยังมีผู้สูญเสียจำนวนมาก ทำให้การรำลึกทุกปีมีการจัดพิธีสงฆ์อุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับไปแล้วในวันดังกล่าว
นอกจากนั้นยังมีผู้ร่วมอุดมการณ์ในอดีตที่ไปอยู่ที่ภูพยัคฆ์ ที่ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งชาวบ้าน ในพื้นที่ นักวิชาการ ศิลปิน และนักการเมือง ที่ยังคงทำหน้าที่เป็นผู้บริหารประเทศ และในรัฐสภาไทยปัจจุบันที่น่าจะใช้เหตุการณ์ในอดีตมาเป็นบทเรียนในการแก้ปัญหาปัญหาความขัดแย้งในปัจจุบัน จะทำให้ทุกคนไม่ต้องการใช้ความรุนแรงอย่างแน่นอน
