ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายอำเภอบางละมุง ร่วมเมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ลุยรื้ออาคารต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตย่านพัทยาใต้ ระบุต้องดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย หวั่นปัญหาความปลอดภัย โดยมีชุมชนร่วมให้กำลังใจอย่างคับคั่ง
วันนี้ (26 พ.ย.) นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย ดร.วีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่เทศกิจ กำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมกว่า 50 นาย ลงพื้นที่บริเวณโรงแรมบูติด พาราไดซ์ ภายในซอยวีซี พัทยาใต้ เพื่อเข้าดำเนินการรื้อถอนอาคารในส่วนที่มีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีกลุ่มสมาชิกสภาเมืองพัทยา ตัวแทนสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา และชุมชนในบริเวณดังกล่าวร่วมให้การสนับสนุน
ทั้งนี้ คณะทำงานได้เข้าพบกับกลุ่มพนักงานของอาคารดังกล่าวก่อนแจ้งว่าจะเข้าทำการรื้อถอนอุปกรณ์ภายในอาคารเพื่อระงับการใช้ โดยจากการเข้าตรวจสอบพบว่าอาคารดังกล่าวมีลักษณะเป็นโครงสร้างสูง 7 ชั้น ภายในมีการจัดแบ่งออกเป็นห้องพักเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายส่วนยังดำเนินการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักอาศัยจำนวน 20 กว่าห้อง จึงได้แจ้งให้ทำการเคลื่อนย้ายออก ก่อนลงมืองัดประตูห้อง และตรวจยึดอุปกรณ์บางส่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เปิดดำเนินการเป็นการชั่วคราว
นายศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคารที่ก่อสร้างผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 เนื่องจากมีการก่อสร้างต่อเติมดัดแปลงอาคาร ค.ส.ล.3 ชั้น เป็น 7 ชั้น ขนาดประมาณ 22x12 จำนวน 3 คูหา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้ดำเนิน การออกคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างดัดแปลงไปแล้วตามหมาย ค.3 รวมทั้งคำสั่งให้แก้ไขและยื่นคำร้องขออนุญาตก่อสร้างดัดแปลงตามแบบ ค.10 จนเมื่อไม่มีการปฏิบัติตามคำสั่ง เมืองพัทยาจึงได้ออกคำสั่งให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 แบบ ค.15 ค.24 พร้อมมอบหมายให้นิติกรเมืองพัทยา เป็นผู้ดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนไปแล้ว
ส่วนการดำเนินการเข้าทำการรื้อถอนตึกในครั้งนี้ เนื่องจากทางอำเภอบางละมุง ได้รับการประสานงานมาจากเมืองพัทยาในการอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้มีการจะเข้ามารื้อถอนตัวอาคารดังกล่าวแล้ว แต่ด้วยทางเจ้าของอาคารได้ขอผ่อนผันว่าจะทำการรื้อถอนอาคารเอง และภาย 1 อาทิตย์ จะทำหนังสือแจ้งมายังเมืองพัทยาแต่เรื่องก็เงียบหายไป อีกทั้งที่ผ่านทางเมืองพัทยาได้มีการทำหนังสือแจ้งเตือนในเรื่องของการดำเนินก่อสร้างที่ผิดมาโดยตลอด แต่ทางผู้ประกอบการก็นิ่งเฉย และมีการดำเนินการก่อสร้างมาโดยตลอด
“หากไม่เคารพต่อกฎหมายบ้านเมือง หากปล่อยทิ้งไว้ และมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักอาศัย หวั่นจะเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ จึงเข้ามาทำการรื้อถอนเพื่อไม่ให้สามารถเปิดดำเนินการได้ และจะได้ดำเนินการรื้อถอนในส่วนที่ต่อเติมจนแล้วเสร็จ” นายศักดิ์ชัย กล่าว
นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า นอกจากอาคารหลังดังกล่าวแล้ว ยังทราบว่ามีอีกหลายอาคารที่อยู่ในเครือเดียวกันยังคงมีปัญหา และเมืองพัทยาก็ดำเนินการตามขั้นตอนไปแล้วบางส่วน แต่หากยังพบว่ายังมีการฝ่าฝืนก็จะดำเนินการตามขั้นตอนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการทุกอย่างก็เพื่อความถูกต้อง และหากทางผู้ประกอบการมีแนวทางที่จะแก้ไข หรือปรับปรุงอาคารให้อยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด ทางเมืองพัทยาก็คงอนุญาตให้ดำเนินการปลูกสร้าง และเปิดใช้ได้ตามปรกติ
ด้าน ดร.วีระวัฒน์ ค้าขาย รองนายเมืองพัทยา กล่าวว่า หลังจากนี้เมืองพัทยาจะประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งการไฟฟ้า และการประปา ในการดำเนินยกเลิกการให้บริการไฟฟ้า และน้ำประปาภายในอาคาร นอกจากนี้ ทางเมืองพัทยาจะมีติดตามในส่วนของอาคารต่างๆ ภายในเครือที่มีการก่อสร้างผิดระเบียบ ซึ่งมีทั้งหมด 11 แห่ง ที่มีการก่อสร้างที่ผิดระเบียบการอนุญาตจากเมืองพัทยาในการบังคับใช้กฎหมายต่อไป
มีรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับอาคารในเครือโรงแรมบูติค พบว่ามีจำนวนหลายอาคารซึ่งส่วนใหญ่มีปัญหาด้านการก่อสร้างต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้เข้าไปดำเนินการปิดหมายแล้วแต่ก็ไม่มีการติดตามงาน จนกระทั่งมีการก่อสร้างแล้วเสร็จไปในหลายอาคารทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบได้รับความเดือดร้อนจนร้องเรียนผ่านไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี
ทั้งนี้ จึงได้มีคำสั่งตรงให้นายอำเภอบางละมุง เข้ามาเร่งรัด และอำนวยความสะดวกในการรื้อถอน เนื่องจากมีกระแสว่าที่ผ่านมาจากกรณีดังกล่าวมีแรงกดดันมาจากผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองอย่างต่อเนื่องจนไม่มีใครกล้าแตะต้อง
