เชียงใหม่ - เจ้าของโรงแรมในเชียงใหม่ขึ้นโรงพักแจ้งความตำรวจ หลังสาวแสบใช้อุบายตระเวนเช่าห้องพัก-สปาหรู ก่อนตุ๋นยืมเงินแล้วหนีหายเข้ากลีบเมฆ
วันนี้ (26 พ.ย.) รายงานข่าวจาก จ.เชียงใหม่แจ้งว่า ขณะนี้มีการเผยแพร่เรื่องราวเตือนภัยสังคมที่กำลังเกิดขึ้นในเชียงใหม่ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ว่ามีสาวแสบหลอกตุ๋นเงินโรงแรมหลายแห่งในเชียงใหม่ โดยทำทีจองห้องพัก ก่อนใช้ลูกไม้ขอยืมเงินผู้เสียหายไปก่อน จากนั้นหนีหายเข้ากลีบเมฆทันที ซึ่งผู้เสียหายหลายรายได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว
โดยหนึ่งในโรงแรมที่ถูกหลอกตุ๋นเงิน คือ โรงแรมเลอคาแนล บูติก เฮ้าท์ เลขที่ 91 ถนนศรีภูมิ อ.เมือง ของนางอาภาพร เทพจันทร์ อายุ 29 ปี ซึ่งได้ให้ผู้สื่อข่าวดูภาพกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายทำทีเข้าพัก พบว่าคนร้ายเป็นหญิงอายุประมาณ 45 ปี กำลังหว่านล้อมเจ้าหน้าที่โรงแรมเพื่อขอยืมเงิน ก่อนจะขับรถยี่ห้อฮอนด้ารุ่น pcx สีดำ ไม่ติดป้ายทะเบียนหลบหนีไป
นางอาภาพรเล่าว่า วันเกิดเหตุตนดูแลงานที่โรงแรม ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากบริษัทนำเที่ยวว่าจะมีลูกค้าระดับวีไอพีต้องการห้องราคาแพง ต่อมาหญิงคนดังกล่าวก็มาที่โรงแรม และได้พูดคุยกับพนักงาน โดยเลือกห้องราคาแพง พร้อมบอกว่าต้องการพักเวลานานหลายวัน จากนั้นจึงให้พนักงานอีกคนไปดูแลเพื่อออกไปขอเช่ารถ
ต่อมาไม่นานหญิงคนดังกล่าวก็กลับเข้ามาอีกครั้งในระหว่างที่ตนเองเข้าห้องน้ำ และพนักงานไปดูแลห้องพัก-รถเช่า โดยเข้ามาแจ้งว่าได้เช่าพักและจ่ายเงินมัดจำไปแล้ว 2 หมื่นบาทกับพนักงานของตน แต่ต้องรีบไปส่งสามีขึ้นเครื่องบิน และต้องแวะไปเอายารักษาโรคให้แม่ แต่ไม่ได้เอาเงินติดมาด้วย ขอยืมเงินตนไปเอายา 5,000 บาท
ด้วยความที่เชื่อว่าได้จ่ายเงินให้แล้ว 2 หมื่น และไม่ได้เข้าพัก ทั้งยังหว่านล้อมว่าตนเองไม่เคยยืมเงินใครมาก่อน ครั้งนี้สุดวิสัยจริงๆ จึงควักเงินให้ คนร้ายยังถามตนว่าเป็นเจ้าของโรงแรมหรือไม่ ตนก็ตอบว่าใช่ จึงบอกว่าพี่ไม่แน่ใจว่า 5,000 บาทพอไหม จึงขอยืมเครื่องคิดเลขกดดูแล้วบอกว่าไม่ใช่ ต้องจ่ายค่ายา 2 ถุง ขอยืมอีก 2,000 บาทตนจึงจ่ายไปให้
จากนั้นหญิงคนดังกล่าวจึงออกจากโรงแรมไป ระหว่างนั้นยังไปขอยืมเงินพนักงานที่ดูแลรถเช่าด้านนอกอยู่อีก 5,000 บาท แต่พนักงานไม่ให้ และมาแจ้งตนว่าเรื่องชักไม่ชอบมาพากล จึงสอบถามพนักงานที่ดูแลห้องพักด้านบน ทราบว่าไม่ได้จ่ายเงินค่าห้อง
นางอาภาพรกล่าวว่า ได้ไปแจ้งความต่อ พ.ต.ท.บุญธรรม กำไร พนักงานสอบสวน ชำนาญการพิเศษ สภ.เมือง เพื่อติดตามคนร้าย โดยระหว่างนั้นมีผู้เสียหายอีกรายนั่งรอแจ้งความอยู่ โดยถูกหญิงคนดังกล่าวหลอกลวงลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้ยังทราบว่ายังไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันอีกหลายแห่ง ล่าสุดยังไปใช้แพกเกจสปาสุดหรูหลายที่ ก่อนหลอกตุ๋นเงินไปแบบเดิม
“ตำรวจแจ้งว่าหญิงคนดังกล่าวเคยต้องโทษลักษณะฉ้อโกงมาแล้ว และพ้นโทษออกมาก่อเหตุลักษณะเดิมอีก โดยทาง สภ.เมืองมีประวัติของผู้ต้องหารายนี้อยู่ในสารบบด้วย”
นางอาภาพรกล่าวว่า ตนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นภัยสังคม จึงแจ้งเตือนผ่านเฟซบุ๊กเพื่อให้แชร์ข้อความกันให้มากที่สุด จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ได้อีกต่อไป
