xs
xsm
sm
md
lg

4 ชายฉกรรจ์แต่งตล้าย ตร.บุกปล้นเสี่ยร้านอะไหล่ยนต์ กวาดทรัพย์กว่า 20 ล้านหนีลอยนวล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - 4 ชายฉกรรจ์แต่งตัวคล้ายตำรวจ บุกปล้นเสี่ยร้านอะไหล่ยนต์ เมืองสุพรรณบุรีกลางดึก ก่อนสับกุญแจล็อกมือใช้อาวุธปืนจี้บังคับเปิดตู้เซฟ กวาดทรัพย์สินกว่า 20 ล้านบาทหนีลอยนวล ตำรวจคาดฝีมือแก๊งมีสี

เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (25 พ.ย.) ร.ต.ท.ประสงค์ จารุรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 4 คนแต่งตัวคล้ายตำรวจใช้อาวุธปืนบุกปล้นร้านอารยะอะไหล่ยนต์ เลขที่ 159/4-5 หมู่ 3 ต.สระกระโจม อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี คนร้ายได้ใส่กุญแจมือเจ้าของบ้านแล้วใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้เปิดตู้เซฟกวาดเอาทรัพย์สินสร้อยทองคำ เครื่องเพชรเครื่องประดับ และเงินสดมูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท หลบหนีไป

หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.นิวัติ มาตะราช ผกก.สภ.ดอนเจดีย์ พ.ต.ท.ไพโรจน์ ไทยโพธิ์ศรี รอง ผกก.สส.สภ.ดอนเจดีย์ พ.ต.ท.โรจนรุตม์ ดวงสะอาด สว.สส.สภ.ดอนเจดีย์ พ.ต.ท.วิชัย เพ็งแจ่ม สวป.สภ.ดอนเจดีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สุพรรณบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังติดตาม และตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อเกีย สีบรอนซ์ จำอักษรหน้า และหมวดจังหวัดไม่ได้ ทะเบียน 3383 เป็นพาหนะมุ่งหน้าหลบหนี แต่กลุ่มคนร้ายสามารถหลบหนีการจับกุมไปได้

บ้านที่เกิดเหตุพบ นายกิตติพงษ์ จารุอารยนันท์ อายุ 36 ปี นางนุจรีย์ จารุอารยนันท์ อายุ 35 ปี กำลังตั้งครรภ์ สองสามีภรรยา และเด็กชายวัย 3 ขวบ ลูกชายของทั้งสอง นอกจากนี้ ยังมีนายประสิทธิ์ และนางสาวิตรี จารุอารยนันท์ พ่อและแม่ ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยอาการตื่นตระหนกตกใจ ส่วนตัวบ้านเป็นอาคารพาณิชย์ ภายในมีอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์เป็นจำนวนมาก หน้าบ้านพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วิซ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน สท 386 กทม.กระจกฝั่งประตูคนขับถูกยิงด้วยอาวุธปืนจนกระจกแตกละเอียด แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่พบลูกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 1 นัด จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

ตรวจสอบห้องนอนที่อยู่ชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นห้องนอนของ นายประสิทธิ์ และนางสาวิตรี จารุอารยนันท์ สองสามีภรรยา พบร่องรอยการรื้อค้นกระจัดกระจาย พบตู้เซฟสำหรับเก็บทรัพย์สินมีค่าถูกเปิดเอาไว้ โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นทองคำ เครื่องเพชรเครื่องประดับ รวมทั้งเงินสดไปเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝงที่คาดว่าจะเป็นของคนร้าย เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีหาตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ

นายกิตติพงษ์ จารุอารยนันท์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์เก๋งไปทำธุระนอกบ้านกับภรรยาที่กำลังตั้งท้องแก่ และลูกชายวัย 3 ขวบ หลังทำธุระเสร็จจึงเดินทางกลับบ้าน เมื่อมาถึงจึงได้กดรีโมตเพื่อเปิดประตูเลื่อนขึ้น จากนั้นจึงขับรถยนต์เข้าไปจอดภายใน และได้กดรีโมทอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ประตูเลื่อนปิดลง เมื่อจอดรถเข้าที่ขณะกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ อยู่ๆ ได้มีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 4 คน วิ่งและมุดประตูเข้ามาก่อนที่ประตูจะเลื่อนลงถึงพื้น ด้วยความตกใจกลัวจึงรีบขึ้นรถ และปิดล็อกประตูรถเอาไว้ แต่คนร้ายพยายามใช้ด้ามปืนทุบกระจกรถแต่ไม่แตก

จากนั้น 1 ในคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กระจกรถฝั่งที่ตนขับจนแตกละเอียด ตนและภรรยากับลูกชายจึงยอมลงจากรถ และร้องขอชีวิตเอาไว้ และบอกกับคนร้ายว่าอยากได้อะไรก็เอาไปเลย โดยขอหลบเข้าไปอยู่ภายในห้องน้ำเพื่อความปลอดภัย จากนั้นคนร้ายทั้งหมดได้รื้อค้นหาทรัพย์สินภายในรถได้เงินสดไปไม่มากนัก และเอาโทรศัพท์มือถือไปด้วย 2 เครื่อง

ขณะเดียวกัน พ่อที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในห้องนอนชั้นที่ 2 ได้ยินเสียงเข้าจึงลงมาดู เมื่อคนร้ายเห็นจึงคุมตัวพ่อไว้แล้วใส่กุญแจมือ และบังคับให้พาขึ้นไปบนห้องนอนเพื่อหาทรัพย์สิน โดยคนร้ายได้ช่วยกันรื้อค้นหาทรัพย์จนข้าวของภายในห้องนอนตกกระจัดกระจาย และใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้เปิดตู้เซฟออก ทุกคนต่างไหว้ขอชีวิตเอาไว้ และได้ทำตามด้วยการเปิดตู้เซฟออก

จากนั้นคนร้ายได้กวาดเอาทรัพย์ที่มีอยู่ในตู้เซฟไปจนหมด โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปทั้งหมด ประกอบด้วย เงินสด จำนวน 4 ล้านบาท ทองคำน้ำหนักประมาณ 600 บาท มูลค่าประมาณ 12 ล้านบาท เครื่องประดับเพชรชนิดต่างๆ มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท พระเลี่ยมทองอีกหลายองค์ มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปมีมูลค่ารวมกันกว่า 20 ล้านบาท จากนั้นคนร้ายจึงได้วิ่งออกจากบ้านไปขึ้นรถยนต์เก๋งยี่ฮ้อเกีย จำได้เพียงหมายเลข 3383 ที่คนร้ายจอดเอาไว้ถนนตรงข้ามหน้าบ้านหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า หลังก่อเหตุคนร้ายได้นำโทรศัพท์มือถือของนายกิตติพงษ์ ไปด้วย และโทรศัพท์ติดตั้งอุปกรณ์จีพีเอสเอาไว้ด้วย เจ้าหน้าที่สามารถติดตามสัญญาณการเคลื่อนไหวของคนร้ายได้ เจ้าหน้าที่จึงติดตามสัญญาณจีพีเอสโทรศัพท์มือถือไป และพบโทรศัพท์ถูกโยนทิ้งไว้ข้างทางห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร คาดว่าคนร้ายคงจะรู้ทันจึงได้โยนทิ้งไป

จากการสอบปากคำผู้เสียหายถึงพฤติกรรมในการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายทั้ง 4 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า คนร้ายอาจจะเป็นคนมีสี หรืออาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียเอง สังเกตได้จากการแต่งกายของคนร้ายอีกทั้งยังเตรียมกุญแจมือมาเพื่อก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายได้วางแผนในการก่อเหตุครั้งนี้มาเป็นอย่างดี โดยใช้เวลาในการก่อเหตุไม่นานนักก่อนที่จะหลบหนีไป และเชื่อได้ว่า กลุ่มคนร้ายมีวิทยุสื่อสารทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี จึงสามารถหลบหนีไปได้

แต่อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี ลงพื้นที่เพื่อร่วมกันคลี่คลายคดีอีกทางหนึ่ง พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเร่งตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายอย่างเร่งด่วน และจะเชิญผู้เสียหายไปสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม และจะได้นำกล้องวงจรปิดที่ที่ติดเอาไว้ และสามารถจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุเอาไว้ได้ เพื่อนำไปตรวจสอบลักษณะหน้าตาของคนร้ายให้แน่ชัด เพื่อนำไปสู่การออกหมายจับคนร้ายทั้ง 4 คนต่อไป เชื่อว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็ววันนี้ แต่เจ้าหน้าที่ขอเวลาสักระยะหนึ่งก่อน

กำลังโหลดความคิดเห็น