ศรีสะเกษ - ปชช.นักท่องเที่ยวไทย แห่ขึ้นชมผามออีแดงเพื่อชมเขาพระวิหารหลังการพิพากษาของศาลโลก เศร้าปานนี้อย่างไม่รู้ตัวไทยเสียดินแดนให้เขมร ขณะชาวเขมรทะลักเข้ามาหาซื้อสินค้าที่ช่องสะงำคึกคัก
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (24 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชาได้มีบรรดาประชาชน นักท่องเที่ยวชาวไทยจากทั่วประเทศพากันเดินทางขึ้นมาชมความสวยงามของธรรมชาติกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะทิวทัศน์ใต้หน้าผามออีแดงลงไป ซึ่งเป็นเขตประเทศกัมพูชา หรือที่เรียกว่า เขมรต่ำ ขณะที่บริเวณยอดเขาพนมดังรัก ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทพระวิหารที่อยู่ห่างออกไปนั้น มีหมอกบางๆ ปกคลุมอยู่บนยอดเขาอย่างสวยงาม
จากนั้นนักท่องเที่ยวพากันลงไปชมภาพแกะสลักหินนูนต่ำ อายุกว่า 2,500 ปี บริเวณใต้หน้าผามออีแดง และมีหลักฐานว่าเป็นการทดลองแกะสลักของช่างสมัยขอมโบราณก่อนขึ้นไปแกะสลักบนปราสาทพระวิหาร และพากันส่องกล้องดูความสวยงามของตัวปราสาทพระวิหารโดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และทหารพราน รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารคอยอำนวยความสะดวก และรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ พร้อมห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวบันทึกภาพฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคง และเพื่อไม่ให้มีการเผยแพร่ภาพฐานที่ตั้งของทหารไปสู่สาธารณชน
นางกนิษฐา คำแสน อายุ 48 ปี นักท่องเที่ยวชาวไทยกล่าวว่า ตนและครอบครัวขึ้นมาเที่ยวชมความสวยงามของผามออีแดง และชมทิวทัศน์ภูมิประเทศโดยรอบปราสาทพระวิหาร เนื่องจากหลังจากที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้พิพากษาคดีปราสาทพระวิหารแล้ว จึงอยากมาดูด้วยตาของตนเองว่าบริเวณรอบปราสาทพระวิหารมีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจากการที่ได้ดูภูมิประเทศโดยรอบแล้ว เห็นว่าการที่ศาลโลกได้ตัดสินเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ถือว่าเป็นการตัดสินที่ถูกต้องแล้วไม่ทำให้ทั้งไทย และกัมพูชาเสียดินแดน ทำให้ไม่เกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีพ่อค้าประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากพากันเข้ามาหาซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค และอาหารสด เช่น เนื้อหมูสด ผักสด ผลไม้ ในเขตแดนไทย พร้อมนำสินค้าซึ่งส่วนมากเป็นผลิตผลทางการเกษตรเข้ามาขายบริเวณตลาดนัดไทย-กัมพูชา ฝั่งไทยด้วย ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยได้ตรวจตราอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเอาสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาในเขตแดนไทย
นางซะลอน รา อายุ 46 ปี ชาว อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ประมาณ 17 กิโลเมตร (กม.) และเข้ามาหาซื้อสินค้าที่ตลาดนัดช่องสะงำ กล่าวว่า หลังจากศาลโลกได้มีคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้ทำให้ทั้งกัมพูชา และไทยเสียผลประโยชน์ ทำให้บรรยากาศตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย ดีมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งชาวกัมพูชาได้พากันเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว และมีความไว้วางใจในสถานการณ์ตามแนวชายแดนด้านช่องสะงำว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่เป็นอันตราย จึงพากันมาหาซื้อสินค้าเพื่อนำเอาไปเป็นอาหารในครอบครัว และซื้อสินค้าไปจำหน่ายให้แก่ชาวกัมพูชาที่ อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย กันอย่างคึกคักเป็นพิเศษ