สุรินทร์ - โจรอาละวาดขับปิกอัพตระเวนลักข้าวเปลือกชาวนาเมืองช้างที่ตากไว้ริมถนนหนีลอยนวล เผยอยู่ห่างโรงพักแค่ 1 กม.และนอนเฝ้าทุกคืนแต่ไม่รอดเงื้อมมือโจร สูญข้าวหอมมะลิไปกว่า 500 กก. ซ้ำเติมทุกข์กู้เงินมาลงทุนเช่านาปลูกข้าว ด้าน ตร.วิทยุสั่งสกัดกลับไร้วี่แวว ขณะชาวนาทำได้เพียงสาปแช่งโจรให้ตายตกนรก
วันนี้ (22 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านตาพุท ต.ปราสาททอง อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีกลุ่มคนร้ายขับรถยนต์ตระเวนขโมยข้าวเปลือกของเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวแล้วนำมาตากไว้บริเวณริมถนนสายบ้านตาพุท-บ้านตากูก ต.ปราสาท ห่างจากสถานีตำรวจภูธรตากูกประมาณ 1 กิโลเมตร
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง พบว่าเกษตรกรที่ถูกขโมยข้าวเปลือก คือ นายสมุห์ ยืนยาว อายุ 60 ปี บ้านตาพุท ต.ปราสาท กำลังพาญาติพี่น้องมาเก็บข้าวเปลือกที่เหลือบรรจุกระสอบเพื่อนำกลับไปไว้ที่บ้าน โดยนายสมุห์บอกว่า ตนเช่าที่นาเขาปลูกข้าวหอมมะลิจำนวน 15 ไร่ และเพิ่งว่าจ้างรถเกี่ยวข้าวราคาไร่ละ 650 บาท แต่ข้าวมีความชื้นสูงจึงนำมาตากแดดไว้บนริมถนนหลวง และนอนเฝ้าข้าวเปลือกทุกคืน แต่นอนห่างจากจุดตากข้าวประมาณ 600 เมตร โดยในช่วงก่อนรุ่งสางวันนี้ (22 พ.ย) เวลาประมาณ 04.00 น. มีชาวบ้านที่มานอนเฝ้ารถยนต์เกี่ยวข้าวตื่นมาเพื่อเดินทางกลับเข้าบ้านพบคนร้าย 3 คนกำลังช่วยกันขนข้าวเปลือกของตนขึ้นรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ แบบแค็บ สีดำ จำหมายเลขทะเบียนรถไม่ได้ และเมื่อเห็นคนมาพบจึงพากันรีบขับรถหลบหนีไปทางด้านบ้านปราสาททอง มุ่งหน้าสู่ อ.เขวาสินรินทร์
เมื่อตนตื่นขึ้นมาไปตรวจสอบ พบว่าข้าวเปลือกที่ตากกองไว้หายไปจำนวนมากกว่า 500 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 หมื่นบาท จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตากูกมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ได้วิทยุแจ้งให้ตำรวจ สภ.ใกล้เคียงช่วยสกัดจับคนร้าย แต่ไม่สามารถจับกุมได้
“เสียใจมากที่ถูกคนร้ายขโมยข้าวเปลือกไป เพราะเป็นหนี้กู้เงินเขามาลงทุนทำนา ทั้งค่าปุ๋ย ค่ารถไถ รถเกี่ยวข้าว ตั้งใจว่าเมื่อตากข้าวแห้งแล้วจะนำไปขายได้ราคากิโลกรัมละ 20 บาทเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ที่เหลือจะเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว แต่กลับมาถูกคนร้ายขโมยข้าวไปจำนวนมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงนำหมากพลูมาทำพิธีสาปแช่งคนที่มาขโมยข้าวไป ให้รถคว่ำตายตกนรก หรือทำมาหากินไม่เจริญ ตกทุกข์ได้ยาก ลำบากยากจนมากกว่าตนหลายเท่าตัว” นายสมุห์กล่าว