ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลากยกขบวนชุมนุมหน้างานเอเชียแปซิฟิกลอตเตอรี่ พร้อมเปิดนาฬิกาปลุกเป็นสัญลักษณ์กระตุ้นกองสลากปฏิรูปสลากกินแบ่งเป็นสลากเพื่อสังคม ชี้ที่ผ่านมาออกสลากเน้นแต่หารายได้ จี้ต้องปรับเปลี่ยนเอาเงินมาตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาสังคมแทน ระบุหากทำได้นอกจากช่วยสังคมแล้วยังแก้ปัญหาสลากแพงด้วย
วันนี้ (19 พ.ย.) กลุ่มผู้ชุมนุมในนามเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก เดินทางมาชุมนุมที่หน้าโรงแรมแชงกรี-ลา จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสลากกินแบ่งให้เป็นสลากเพื่อสังคม ด้วยการนำรายได้มาจัดตั้งเป็นกองทุนพัฒนาสังคม พร้อมทั้งประกาศที่จะรวบรวมรายชื่อประชาชนให้ได้ 1,000,000 ชื่อ เพื่อแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับสลากกินแบ่งที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
กลุ่มเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลากซึ่งระบุว่ามีตัวแทนจากทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ จำนวนกว่า 50 คน ได้ยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในระหว่างการประชุมเอเชียแปซิฟิกลอตเตอรี่ (Asia Pacific Lottery Association) ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ โดยนอกจากการยื่นหนังสือต่อรองผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว ทางเครือข่ายยังได้ร่วมกันทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการเปิดนาฬิกาปลุกพร้อมๆ กันเพื่อเป็นสัญญาณให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเกิดความตื่นตัว และเร่งทำการปฏิรูปสลากเพื่อสังคมอย่างเป็นระบบอีกด้วย
นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก กล่าวว่า การยื่นหนังสือของเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กลุ่มผู้ซื้อและผู้ขายลอตเตอรี่ ภาคีเครือข่ายด้านเด็ก เยาวชนครอบครัว และภาคประชาสังคมต่างๆ จาก 4 ภาคทั่วประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลทำการแก้ไขและปรับปรุงระบบสลากในปัจจุบันให้เป็นสลากเพื่อสังคมอย่างแท้จริง
สำหรับข้อเรียกร้องของเครือข่ายประกอบด้วย 1. ขอให้เร่งดำเนินการปฏิรูปสลากกินแบ่งรัฐบาลให้เป็นสลากเพื่อสังคม มีความเป็นสากล โดยแยกอำนาจในการเป็นผู้ออกสลาก ผู้กำกับดูแล และผู้จัดสรรเงิน ออกจากกัน ภายใต้หลักสำคัญสามประการ คือ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส หยุดการขายเกินราคา และนำเงินมาพัฒนาสังคมอย่างแท้จริง 2. ขอให้เร่งสร้างกลไกสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารจัดการสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลการบริหารใช้จ่ายงบประมาณให้ประชาชนได้รับรู้ และ 3. ขอให้นำรายงานการศึกษาสลากกินแบ่งรัฐบาลของวุฒิสภา มาประกอบการพิจารณาปรับปรุงสลากกินแบ่งรัฐบาล
นายธนากรกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ทางเครือข่ายยังเตรียมที่จะรวบรวมรายชื่อประชาชนจากทั่วประเทศให้ได้ 1,000,000 ชื่อภายใน 3 เดือน เพื่อนำเสนอร่างกฎหมายแก้ไขพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 เนื่องจากเห็นว่าเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากถูกนำมาใช้ประโยชน์แก่สังคมน้อยมาก อีกทั้งผลสำรวจความเห็นของประชาชนต่อการปฏิรูปสลากซึ่งมีการสำรวจเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมายังพบว่า ประชาชนร้อยละ 88 เห็นด้วยหากจะมีการเปลี่ยนแนวทางการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล จากเป้าหมายเพื่อแสวงหารายได้เข้ารัฐมาสู่การตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาสังคม
นายธนากรกล่าวระบุว่า ที่ผ่านมามีองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ หลายแห่งที่ทำงานหรือมีโครงการในด้านการดูแลและพัฒนาสังคม แต่เมื่องบประมาณที่ได้รับไม่เพียงพอ ทำให้งานขาดความต่อเนื่อง แต่หากนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากมาจัดตั้งเป็นกองทุนพัฒนาสังคม ก็จะช่วยให้องค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ เหล่านี้มีงบประมาณสำหรับใช้ในการดำเนินงานต่างๆ ได้
ขณะเดียวกัน ในแนวทางการปฏิรูปยังมีข้อเสนอเกี่ยวกับการกันเงินร้อยละ 3 ที่ได้จากการจำหน่ายเพื่อมาตั้งเป็นกองทุนเพื่อรับซื้อสลากคืนจากผู้ขาย ซึ่งหากสามารถทำได้จะช่วยลดสาเหตุที่ทำให้สลากกินแบ่งมีราคาแพงกว่าราคาจำหน่ายจริงได้อีกทางหนึ่ง