รวบแก๊งรัสเซียปลอมบัตรเครดิตตระเวนกดเงินเหยื่ออื้อ-ตร.ท่องเที่ยวร่วมด้วย

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจโคราชรวบแก๊งชาวต่างชาติปลอมบัตรเครดิตตระเวนกดเงินเหยื่อทั้งชาวไทยและต่างชาติได้คาตู้เอทีเอ็มที่เมืองย่าโม ได้ผู้ต้องหา 3 ราย เป็นชาวรัสเซีย 2 ราย และ ตร.ท่องเที่ยวไทย 1 รายเป็นคนขับรถพากดเงิน พร้อมของกลางเงินสดร่วม 3 ล้าน และบัตรเครดิตปลอมอื้อ 328 ใบ คาดมีเพื่อนร่วมแก๊งหลายราย เร่งสอบสวนขยายผล บุกค้นคอนโดฯ กลางกรุงวันนี้

เมื่อเวลา 10.45 น.วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ห้องประชุมกองอำนวยการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา และ พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งปลอมและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรเครดิต) ปลอมรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 3 ราย เป็นชาวรัสเซีย 2 ราย คือ นายวาซีลี หรือ อเล็กซี่ อาวานอฟ อายุ 27 ปี และ นายเซอกี้ ปีเตอร์นอฟ อายุ 38 ปี และคนไทยอีก 1 ราย คือ ดาบตำรวจ นนทพันธ์ แสงสุข อายุ 37 ปี ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว

พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 2,895,000 บาท สุมดบัญชีข้อมูล 1 เล่น สมุดคู่ฝากธนาคารกสิกรไทย 1 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรเครดิต) ปลอม จำนวน 328 ใบ และรถยนต์เก๋งอีก 1 คัน ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ

พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายแก๊งนี้ จะนำบัตรเครดิตปลอมที่ถูกคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัสกดเงินสดของเจ้าของบัตร มาทำการกดเงินโดยตระเวนกดทุกธนาคาร จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งมีคนไทยที่ตกเป็นเหยื่ออยู่ 4 ราย

สำหรับดาบตำรวจ นนทพันธ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวนั้น จะมีหน้าที่ในการขับรถพาชาวรัสเซียกลุ่มนี้ตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ ซึ่งจะได้ส่วนแบ่ง 10% ของเงินที่กดได้ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา จับกุมได้ขณะพาชาวรัสเซียไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาเมื่อคืนนี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าประจำจุดสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ต้องสงสัยจึงขอทำการตรวจค้นและพบของกลางจำนวนมากดังกล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีเพื่อนร่วมแก๊งอีกหลายรายที่ร่วมกันก่อเหตุ โดยเฉพาะผู้ที่ส่งข้อมูลบัตรเครดิตและรหัสกดเงินสดมาให้ เบื้องต้นจากการสอบสวนขยายผลพอทราบว่าผู้ที่กระทำการซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่อยู่ในประเทศไทย

ด้าน พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนำกำลังเข้าทำการตรวจค้นคอนโดฯ ของชาวรัสเซียทั้ง 2 คนที่กรุงเทพฯ คาดว่าช่วงบ่ายจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแก๊งนี้ว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ถูกจับเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้หรือไม่ และจากการตรวจสอบพบว่า นายวาซิลี หรือ อเล็กซี่ เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2554 ในนามนักท่องเที่ยวและไปต่อวีซาที่อรัญประเทศครั้งเดียว จากนั้นก็หลบซ่อนอยู่ในประเทศไทยเรื่อยมา ส่วนนายเซอกี้เข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2556 นี้

จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าผู้ที่ส่งข้อมูลรหัสกดเงินสดให้ชาวรัสเซียทั้ง 2 คนน่าจะมีเครือข่ายในต่างประเทศ และมาทำการปลอมบัตรเครดิตในประเทศไทยก่อนส่งให้ทั้ง 2 คนมาทำการตระเวนกดเงินสด

“อยากฝากให้ประชาชนร่วมกันสอดส่อง หากพบชาวต่างชาติมีพฤติกรรมต้องสงสัย เช่น กดเงินที่ตู้เอทีเอ็มนาน หรือกดหลายใบ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าทำการตรวจสอบ และหากตกเป็นเหยื่อให้รีบติดต่อธนาคารและไม่ต้องจ่ายเงินส่วนที่ถูกแก๊งนี้กดไปจนกว่าจะดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จ” พล.ต.ต.ชาติชายกล่าว