ศูนย์ข่าวศรีราชา - สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เตรียมยกระดับ และพัฒนาการท่องเที่ยวภายในพื้นที่สู่การท่องเที่ยวแบบป่าฝนชื้น (Rain Forest) กำหนดโซนนิ่งให้มีทั้งเขตต้นไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้พื้นบน และไม้พื้นล่าง เพื่อสร้างบรรยากาศแปลกใหม่ทางการท่องเที่ยว พร้องเร่งทุ่มงบพัฒนาส่วนขยายพันธุ์สัตว์ต่างๆ รับโอกาสการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมทางวิชาการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ภายใต้โครงการ สมเด็จพระเทพฯ
นายสุริยา แสงพงษ์ ผู้อำนวยการ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เผยถึงแผนพัฒนาสวนสัตว์เปิดเขาเขียวในระยะ 5 ปีนับจากนี้ เพื่อรองรับการเป็นพื้นที่ต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมสวนสัตว์โลก และอะควาเรียม ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมในปี 2562 และจะมีสมาชิกจากสมาคมสวนสัตว์ต่างๆ ทั่วโลกเข้าเดินทางเข้าร่วมกว่า 1,000 สวนสัตว์ ว่า
การประชุมดังกล่าว จะมีทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ และการบริหารจัดการสวนสัตว์ รวมทั้งการลงพื้นที่เพื่อชมสภาพสวนสัตว์จริง และสวนสัตว์เปิดเขาเขียวจะเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ในการรองรับสมาชิกจากทั่วโลก
ดังนั้น ในปี 2556 สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จึงเริ่มดำเนินการปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่นเดียวกับสวนสัตว์ต่างๆ ทั่วประเทศ และยังเป็นการรองรับความเป็นไปได้ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จะได้รับพิจารณาให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ภายใต้โครงการของสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งขณะนี้ ได้มีการผลักดันงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทในการพัฒนาส่วนแสดงต่างๆ เพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุด
รวมทั้งการจัดส่วนแสดงเสือลายเมฆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การพัฒนาส่วนแสดงค่าง 5 สี ที่ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของการขยายพันธุ์ค่าง 5 สี การพัฒนาศูนย์เพาะพันธ์นกเงือกในภูมิภาคตะวันออก ฯลฯ
นอกจากนั้น ภายใน 5 ปีนี้ เรายังจะสร้างพื้นที่ป่าให้เป็นไปในลักษณะ Rain Forest หรือป่าฝนชื้น ด้วยการกำหนดโซนนิ่งให้มีทั้งเขตต้นไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้พื้นบน และไม้พื้นล่าง ตามแบบฉบับของป่าฝนชื้น และยังจะพัฒนาระบบน้ำ พร้อมทั้งจัดทำสเปรย์พ่นหมอก
ปัจจุบัน สวนสัตว์เปิดเขาเขียว มีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องจัดวางพื้นที่ใหม่ด้วยการชูจุดขายของความเป็นป่า ที่มีสัตว์เป็นองค์ประกอบ แทนจุดขายเดิมที่ชูเพียงความหลากหลายของสัตว์ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ทางการท่องเที่ยวให้แก่ผู้มาเยือน และยังตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวแถบยุโรป และอเมริกา ที่นิยมท่องเที่ยวสวนสัตว์ที่มีส่วนผสมของความเป็นป่าฝนชื้นอยู่ด้วย
นายสุริยา ยังเผยอีกว่า ตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ได้พัฒนาส่วนต่างๆ เพื่อรองรับความเป็น Rain Forest ขณะที่ในส่วนของพื้นที่ป่าก็พบว่ามีการขยายเนื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่จะต้องเพิ่มในส่วนของสีสันไม้ดอก ไม้ประดับ เพื่อแสดงถึงความเป็นป่าฝนชื้นที่สมบูรณ์
ขณะเดียวกัน สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี ยังถือเป็นสวนสัตว์แห่งแรกในเอเชีย ที่จัดพื้นที่ให้สัตว์นักล่าได้อยู่ร่วมกับสัตว์ถูกล่าอย่างเหมาะสมโดยไม่มีการข้ามเขตมาทำอันตรายซึ่งกันและกัน เพื่อแสดงให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศของการอยู่ในทุ่งสัตว์ที่แท้จริง
“เรามีส่วนแสดงสิงโตที่ตั้งอยู่กลางสวนสัตว์ และอยู่ร่วมกับสัตว์ถูกล่า โดยได้จัดสร้างจุดกั้นเพียงเพื่อให้สัตว์ทำได้แค่เห็นกันเท่านั้น ทั้งนี้ ก็เพื่อสร้างความตื่นตัวให้แก่สัตว์เหล่านี้อยู่ตลอดเวลา ”
แม้ว่าในปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจเซียน แต่ในแง่ของการท่องเที่ยวแล้วไม่ถือว่าจะได้นักท่องเที่ยวในส่วนเอเชียเพิ่มขึ้นมากนัก เพราะนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังสวนสัตว์แห่งนี้คือ กลุ่มรัสเซีย และยุโรป
“ในแง่ของยอดนักท่องเที่ยวเราคงไม่เน้นมากนัก เพียงแต่ต้องการที่จะพัฒนาสวนสัตว์ให้มีคุณภาพ และได้มาตรฐานการเป็นสวนสัตว์ระดับโลก ที่สร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติที่แท้จริง เพราะอีกไม่นานเราจำเป็นต้องปรับค่าผ่านประตูขึ้น หลังไม่ได้ปรับมานานถึง 10 ปี และที่ผ่านมา เราได้ทุ่มงบประมาณในการพัฒนาส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปรับค่าผ่านประตูก็ต้องให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าได้รับความคุ้มค่าต่อการเข้ามาท่องเที่ยวยังสวนสัตว์เปิดเขาเขียวด้วยเช่นกัน” นายสุริยา กล่าว
