นครราชสีมา - ตำรวจภาค 3 ตั้งด่านตรวจ 13 จุดบนถนนสายหลัก เข้มจับอาวุธกลุ่มมวลชนที่เดินทางเข้าร่วมชุมนุมม็อบ “สุเทพ” ที่กรุงเทพฯ ผบช.ภ.3 คาดคนเข้าร่วมไม่มาก ชี้ทางการข่าวไม่พบการเคลื่อนไหวที่รุนแรง เชื่อคนอีสานชอบความสงบ
วันนี้ (14 พ.ย.) ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ที่จะเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกระดมมวลชนเพื่อยกระดับการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ว่า จากการติดตามข่าวในพื้นที่เป็นการแสดงออกซึ่งสัญลักษณ์ในแต่ละพื้นที่เท่านั้น และเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
สำหรับกลุ่มที่จะเดินทางเข้าไปกรุงเทพฯ คาดว่าจะมีจำนวนที่ไม่มากนัก ทั้งกลุ่มที่ต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และกลุ่มคนเสื้อแดง โดยตนได้สั่งกำชับให้ทุกพื้นที่ตั้งด่านตรวจอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายเพื่อป้องกันการนำอาวุธเข้าไปร่วมชุมนุม ซึ่งตำรวจแต่ละพื้นที่ได้ตั้งด่านตรวจบนถนนสายหลักรวม 13 จุด
ผบ.ตร.ได้สั่งกำชับให้ดูแลเรื่องนี้อย่างดี เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันของกลุ่มมวลชน และเชื่อว่าประชาชนชาวอีสานไม่ชอบความรุนแรงอยู่แล้ว และไม่ก่อความวุ่นวายขึ้นแน่นอน ที่ออกมาตอนนี้เป็นเพียงการแสดงออกซึ่งสัญลักษณ์เพื่อให้พื้นที่ข้างเคียงได้เห็นว่าแสดงออกแล้ว เรื่องที่จะไปเผาศาลากลางหรือปิดศาลากลางคงไม่มี
ส่วนการจัดส่งกำลังเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยในกรุงเทพฯ นั้น ตำรวจภูธรภาค 3 ได้ส่งกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อย 5 กองร้อย จำนวนกว่า 700 นาย ซึ่งจะมีการสับเปลี่ยนกำลังทุก 10 วัน โดยการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปครั้งนี้มีการคัดกรองพิเศษ ตำรวจทุกนายจะต้องผ่านการตรวจร่างกายเพื่อให้มีความพร้อม เนื่องจากที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สุขภาพไม่ดีไปปฏิบัติหน้าที่เสียชีวิตขณะดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม ฉะนั้นเรื่องนี้จึงเข้มงวดเป็นพิเศษกว่าทุกครั้งจะคัดเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มีร่างกายแข็งแรงเท่านั้นเข้าไปปฏิบัติหน้าที่
ด้าน พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา(ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา) กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ในส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองของมวลชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมานั้น มีเฉพาะกลุ่มมวลชนที่ตั้งเวทีปราศรัยข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ทุกคืนเท่านั้น จำนวนคนเข้าร่วมมากพอสมควร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยทุกคืนเพื่อป้องกันมือที่สามมาก่อเหตุ
มวลชนที่จะเดินทางเข้าไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะมีไม่มากนักทั้งกลุ่มต่อต้านรัฐบาล และกลุ่มคนเสื้อแดง โดยตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาตั้งด่านตรวจบนถนนสายหลักรวม 6 จุดเพื่อตรวจค้นอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายซึ่งจับได้ทุกวัน ส่วนการติดตามสถานการณ์ระดับพื้นที่นั้น ได้สั่งการให้ทุก สภ.รายงานความเคลื่อนไหวเข้ามาทุก 3 ชั่วโมงเพื่อจะประเมินสถานการณ์ต่างๆ ในการดูแลประชาชนได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มมวลชนที่เดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ขอให้ชุมนุมกันอย่างสงบเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกหลานเห็นว่า ความเห็นต่างทางการเมืองสามารถเห็นต่างกันได้ แต่อย่าใช้ความรุนแรง ขอให้ทำเหมือนประเทศที่เจริญแล้วเขาทำกัน
