ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ภาคีคณาจารย์นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ตะเพิด นายกฯ ปูนิ่ม “สมศักดิ์” ปธ.สภาผู้แทนฯ “นิคม” ปธ.วุฒิสภา และ 310 ส.ส. ลาออกยกชุดแสดงความรับผิดชอบที่สนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่งสุดซอยฝืนมติมหาประชาชน และให้ยุติบทบาทของตนเองเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทย
วันนี้ (11 พ.ย.) ผศ.ดร.สามารถ จับโจร นักวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เปิดเผยว่า วันนี้ทางกลุ่มภาคีคณาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 เรื่อง ขอเรียกร้องจากภาคีคณาจารย์ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี 310 ส.ส.ที่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง สุดซอย ได้โปรดพิจารณาและแสดงความรับผิดชอบต่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เป็นเผด็จการรัฐสภา ฝืนมติมวลมหาประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงด้วยการลาออก พร้อมสนับสนุนให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทย
เนื้อหาระบุว่า จากกรณีสมาชิกผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติได้เห็นชอบ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่ง สุดซอย ด้วยมติ 310 ต่อ 0 นั้น ทำให้อุณหภูมิทางการเมืองของพี่น้องประชาชนที่เห็นต่างได้รวมตัวกันแสดงพลังคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับมติ ส.ส. 310 เสียงที่พยายามผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจนได้ชัยชนะในสภาและนำร่างดังกล่าวส่งต่อไปยังวุฒิสภาให้พิจารณารับรองในวันที่ 11 พ.ย. 2556
แต่ด้วยการต่อต้านจากมวลมหาประชาชนในทุกภาคส่วน เช่น กลุ่มนักธุรกิจ นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน ข้าราชการจำนวนมาก เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ที่พบไม่บ่อยนักในสังคมไทยต่อสถานการณ์บ้านเมือง
ทั้งนี้ เพราะ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าวข้างต้นไม่เพียงแต่เป็นการยกเว้นความผิดและโทษให้แก่นักการเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการกระทำในลักษณะการทุจริตคอร์รัปชันพ่วงเข้าไปด้วย เท่ากับเป็นการสร้างบรรทัดฐานและมาตรฐานที่ไม่ถูกต้องขึ้นในสังคมไทย เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าการทุจริตคอร์รัปชันมิใช่สิ่งร้ายแรง และท้ายที่สุดก็สามารถหลุดพ้นจากความผิดได้ด้วยการนิรโทษกรรม จะทำให้การต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชันที่กำลังกลายเป็นพิษภัยและหายนะที่เกิดขึ้นแก่สังคมไทยในปัจจุบันไม่ประสบผลสำเร็จ และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้แก่การกระทำในลักษณะนี้ต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะ จะทำให้นักการเมืองที่กระทำการทุจริตคอร์รัปชันได้รับประโยชน์กันถ้วนหน้า
ฉะนั้น เพื่อจริยธรรมสำนึกและลด (ภาวะ) ความขัดแย้งของพี่น้องประชาชนคนในชาติ ภาคีคณาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จึงขอเรียกร้องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง 310 ส.ส. ที่ร่วมกันผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมไทย โปรดพิจารณาทบทวนบทบาทของตนเองและแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น ด้วยการลาออกและยุติบทบาทของตนเองเพื่อให้บ้านเมืองเปลี่ยนผ่านนำไปสู่การปฏิรูปประเทศชาติในทางสร้างสรรค์ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้
ทั้งนี้ มีคณาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาลงชื่อสนับสนุนแนบท้ายแถลงการณ์ดังกล่าวจำนวน 22 คน ประกอบด้วย 1. ผศ.ดร.สามารถ จับโจร 2. รศ.ดร.พุฒิพงศ์ สัตยวงศ์ทิพย์ 3. ผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล 4. ผศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ 5. ผศ.เปรมวิทย์ ท่อแก้ว 6. ผศ.บวร สุวรรณผา 7. ดร.วุฒิชัย จงคำนึงศีล 8. ดร.เศรษฐวัฒน์ โชควรกุล 9. ผศ.รัฏวรัตน์ ขจัดภัย
10. ดร.จตุรงค์ อนะสีลังกูร 11. อาจารย์ มยุรฉัตร ศรีมันต 12. อาจารย์ อรรถวิทย์ สิงห์ศาลาแสง 13. อาจารย์ ธวัชชัย เอกสันติ 14. อาจารย์ นฤมล เวชจักรเวร 15. อาจารย์ ทิวากรณ์ ราชูธร 16. อาจารย์ วนัด อ่างสุวรรณ 17. อาจารย์ ทองไมย์ เทพราม 18. อาจารย์ ธนะชัย พรหมรัตน์ 19. อาจารย์ กิตติชัย ตรีรัตน์วิชชา 20. อาจารย์ อาวุธ คันศร 21. อาจารย์ สิทธิพล แต่งประกอบ 22. อาจารย์ สุรเดช รณไพรี
