ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ภาคีคณาจารย์ นักศึกษา มรภ.นครราชสีมาและ ม.ราชมงคลอีสาน รวมพลังเคลื่อนทัพสมทบเวที “ต้านนิรโทษกรรมโคตรโกง” ลานย่าโมสุดคึกคัก พร้อมยื่น จม.เปิดผนึกเรียกร้องวุฒิสภาคว่ำเด็ดขาด พ.ร.บ.อัปยศ ก่อนความขัดแย้งของ ปชช.ครั้งใหญ่ปะทุอีกรอบ ยังความสูญเสียอย่างมหาศาลต่อประเทศชาติบ้านเมือง
วันนี้ (8 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่จังหวัดนครราชสีมาว่า ล่าสุดเมื่อคืนนี้ กลุ่มภาคีคณาจารย์ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นำโดย รศ.ดร.พุฒิพงษ์ สัตยวงศ์ทิพย์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ และ ผศ.ดร.สามารถ จับโจร พร้อมด้วยกลุ่มคณาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (นครราชสีมา) รวมกว่า 300 คน ได้รวมตัวกันเคลื่อนขบวนแสดงพลังคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่งสุดซอย จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาไปตาม ถ.สุรนารายณ์ และเข้าสู่ตัวเมืองนครราชสีมา มุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา พร้อมถือป้ายคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและเชิญชวนประชาชนชาวโคราชออกมาแสดงพลังร่วมกันต่อต้านอย่างถึงที่สุด
เมื่อเคลื่อนขบวนมาถึงหน้าอนุสาวรีย์ย่าโม กลุ่มภาคีคณาจารย์ นักศึกษาทั้ง 2 สถาบันได้ร่วมกันสักการะย่าโมเพื่อให้ขอคุ้มครองประเทศชาติและให้ประชาชนได้รับชัยชนะ ก่อนเข้าร่วมชุมนุมกับ “กลุ่มคนโคราชต้านคนโกง” ที่เปิดเวทีปราศรัย “ชาวโคราชร่วมคัดค้านนิรโทษโคตรโกง” ต่อเนื่องมาเป็นวันที่ห้า ท่ามกลางสายฝนที่โปรายปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นกลุ่มแกนนำ ภาคีคณาจารย์นักศึกษาทั้ง 2 สถาบันขึ้นเวทีประกาศเจตนารมณ์การต่อสู้คัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมร่วมกับประชาชนทั่วประเทศ พร้อมยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงประธานวุฒิสภา โดยมีสาระสำคัญระบุว่า การผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งสุดซอยของสภาผู้แทนราษฎรได้เกิดกระแสต่อต้านจากสุจริตชนอย่างกว้างขวาง สะท้อนการเมืองไทยในมิติของความเห็นต่างอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายปีที่ผ่านมา และการจัดทำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ไม่เป็นไปตามแนวทางของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ซึ่งได้ให้แนวทางเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมไว้ว่า ไม่สามารถดำเนินการโดยปราศจากขอบเขต ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรมและมาตรฐาน โดยจะต้องไม่ใช่การนิรโทษกรรมตนเอง และไม่เป็นการนิรโทษกรรมแบบครอบคลุม เหมาเข่งเป็นการทั่วไป หรือครอบคลุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายโดยปราศจากเงื่อนไข แต่ต้องมีการจำกัดความผิดที่จะนิรโทษกรรม และเงื่อนไขในการนิรโทษกรรมอย่างชัดเจนและเฉพาะเจาะจง โดยพิจารณาแยกแยะลักษณะการกระทำของบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งต้องสอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศ และต้องอยู่บนหลักประชาธิปไตย โดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย
ด้วยความห่วงใยในวิกฤตใหญ่หลวงที่จะเกิดต่อชาติบ้านเมือง ภาคีคณาจารย์ นักศึกษาฯ จึงขอเรียกร้องไปยังท่านวุฒิสภา ซึ่งต้องเป็นผู้พิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ ได้โปรดใช้อำนาจอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญดำเนินการยับยั้งกฎหมายนิรโทษกรรมอัปยศในครั้งนี้ไว้ก่อน และส่งร่างกฎหมายนิรโทษกรรมคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาทบทวนใหม่อีกครั้งก่อนความขัดแย้งครั้งใหญ่ของพี่น้องประชาชนจะประทุอีกรอบ และยังความสูญเสียอย่างมหาศาลต่อประเทศชาติบ้านเมือง