ศรีสะเกษ - พ่อค้าแม่ค้า และชาวเขมรเข้ามาหาซื้อสินค้าที่ตลาดนัดไทย-กัมพูชา ช่องสะงำบางตา เผยผวาเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นจากกรณีศาลโลกที่จะตัดสินคดีปราสาทพระวิหารพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) และส่วนใหญ่พากันซื้ออาหารไปกักตุนไว้ ขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไทยตรวจตราคุมเข้ม
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (10 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวันเปิดตลาดนัดไทย-กัมพูชา ที่บริเวณตลาดไทย และได้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนชาวกัมพูชา ประมาณ 300 คน พากันมาเฝ้ารอเพื่อที่จะเข้ามาหาซื้อสินค้าที่บริเวณตลาดนัดไทย-กัมพูชา ในเขตแดนไทย ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเปิดประตู ชาวกัมพูชาได้พากันทะลักเข้ามาในเขตแดนไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งตำรวจ ทหาร และอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อ.ภูสิงห์ ร่วมกันตรวจตราเข้มงวด เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และนำสุนัขมาตรวจหายาเสพติดด้วย
ทั้งนี้ ชาวกัมพูชาได้พากันนำรถเข็นเข้ามาหาซื้อสินค้าที่ตลาดนัดดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กม. โดยสินค้าที่หาซื้อกันมากเป็นอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ปลา ผัก ผลไม้ และอาหารแห้งต่างๆ เพื่อนำไปกักตุนเอาไว้ในช่วงที่ศาลโลกจะมีคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) เพราะชาวกัมพูชาเกรงว่าอาจมีการสั่งปิดด่านชายแดนช่องสะงำ จึงพากันมาหาซื้อสินค้า และอาหารต่างๆ ไปกักตุนไว้ก่อน
นายสมหมาย พุ่มพฤกษา อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 308/2 ม.8 บ้านแซรไปร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พ่อค้าขายไก่ย่างคนหนึ่งกล่าวว่า ในวันนี้มีบรรดาชาวกัมพูชาเข้ามาหาซื้อสินค้าค่อนข้างบางตากว่าทุกครั้งที่มีการเปิดตลาดนัด ซึ่งจากการสอบถามพ่อค้าชาวกัมพูชาบอกว่า ชาวกัมพูชากลัวว่าหากเข้ามาหาซื้อสินค้าในเขตแดนไทยแล้วเกรงจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น เนื่องจากศาลโลกจะพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารในพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) แล้ว จึงไม่ค่อยกล้าเข้ามาหาซื้อสินค้ากันตามปกติ ขณะที่ชาวกัมพูชาส่วนหนึ่งพากันไปรับจ้างเกี่ยวข้าวในนาของเกษตรกรชาวไทย ทำให้มีชาวกัมพูชาเข้ามาหาซื้อสินค้าในเขตแดนไทยในวันนี้บางตากว่าทุกวันที่ผ่านมา ทำให้สินค้าที่พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยนำมาขายในวันนี้ขายไม่หมดจำนวนมาก