กาญจนบุรี - พบเด็กหญิงวัย 8 เดือน ป่วยเป็นโรคหัวใจรั่วรักษาตัวที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา คณะแพทย์พร้อมรักษาเต็มที่รอร่างกายแข็งแรง เตรียมส่งโรงพยาบาลเด็กผ่าตัด ส่วนแม่วัย 23 ปี วอนผู้ใหญ่ใจบุญช่วยเหลือค่าใช้จ่าย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (8 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีเด็กทารกแรกเกิดเพศหญิงวัย 8 เดือน ป่วยเป็นโรคหัวใจรั่ว ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ตึกไอซียู เด็ก โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ถ.แสงชูโต ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมีแม่คอยดูแลอาการอยู่ตามลำพัง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานไปยังนายแพทย์สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผอ.โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา และแพทย์หญิงพรสวรรค์ อัตวินิจตระกูล นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชกรรมโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา แพทย์ผู้ดูแล เพื่อขออนุญาตเข้าไปพบเด็ก และสอบถามแม่ของเด็ก โดยนายแพทย์สมเจตน์ และแพทย์หญิงพรสวรรค์ ได้อนุญาตและพาไปพบ
แพทย์หญิงพรสวรรค์ อัตวินิจตระกูล นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชกรรมโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา กล่าวว่า แม่ของเด็กคนดังกล่าวชื่อ น.ส.บัณฑิตา ขาวบาง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ 9 ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ส่วนเด็กชื่อ ด.ญ.กรรณิกา หรือน้องทอง พังพัว เป็นเด็กทารก อายุ 8 เดือน น้ำหนักแรกคลอด 2,400 กรัม ปัจจุบันน้ำหนัก 3,800 กรัม โดยแม่ของเด็กไดมาคลอดที่โรงพยาบาลพหลฯ หลังจากเด็กคลอดออกมา คณะแพทย์โรงพยาบาลพหลฯ ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่า เด็กมีอาการเต้นของหัวใจผิดปกติ คณะแพทย์จึงทำการรักษาตามขั้นตอนจนกระทั่งอาการของเด็กแข็งแรงขึ้น และมีอารมณ์ที่ร่าเริงเหมือนเด็กทั่วไป และอนุญาตให้แม่ของเด็กพากลับบ้านได้
จนกระทั่งเด็กมีอายุได้ประมาณ 6 เดือน ก็เกิดอาการไอต่อเนื่องกันหลายวัน จากนั้นแม่ของเด็กจึงพาไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้บ้าน ซึ่งทางคลินิกก็ให้ตัวยาไปรับประทาน แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จึงได้กลับไปพบหมอที่คลินิกอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นแพทย์ประจำคลินิกจึงส่งตัวเด็กมาทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลพหลฯ หลังจากแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดก็ได้รับคำยืนยันจากแพทย์ว่า เด็กป่วยเป็นโรคหัวใจ พบรอยรั่วที่หัวใจทั้งหัวใจล่าง และหัวใจบน เป็นรูขนาดใหญ่ 2 รู และยังเป็นโรคหัวใจวายอีกด้วย และขณะทำการดูแลรักษาเด็กเริ่มมีอาการทรุดหนัก คณะแพทย์จึงรีบนำเข้าห้องไอซียู แต่เนื่องจากเด็กมีอาการที่หนักมาก แพทย์จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และเฝ้าดูอาการวันต่อวัน
และมูลนิธิโรคหัวใจเด็ก ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง รวมทั้งคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง ภายหลังทราบข่าวก็ได้เดินทางมาพบ และมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นเป็นเงิน 15,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับแม่ของเด็ก ส่วนแนวทางในการรักษา หากเด็กยังไม่สามารถกินยาได้ และถ้าหากร่างกายแข็งแรงพร้อมผ่าตัดเมื่อไหร่ ทางโรงพยาบาลก็จะส่งไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลเด็กที่กรุงเทพมหานคร โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งภายในวันจันทร์นี้ ทางโรงพยาลพหลฯ ก็จะส่งตัวเด็กไปเพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจหัวใจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง หากสามารถผ่าตัดได้คณะแพทย์ก็จะผ่าตัดให้ทันที พร้อมจะรับตัวทำการรักษาต่อไป
“ขณะนี้ทางโรงพยาบาลพหลฯ ได้ทำการตรวจสุขภาพร่างกายของเด็กแรกคลอดทุกคน โดยหลังคลอดจะเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง หากพบอาการเด็กผิดปกติ เหนื่อยง่ายขณะดูดนมแม่ คณะแพทย์จะตรวจสุขภาพอย่างละเอียดว่าเด็กป่วยเป็นโรคหัวใจหรือไม่ หากพบก็จะรีบส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเด็กทันที หากไม่พบขณะอยู่บ้านเราก็จะแนะนำพ่อแม่ให้คอยสังเกตอาการของลูกให้ดี หากพบผิดปกติให้รีบนำมาพบแพทย์ทันที” แพทย์หญิงพรสวรรค์ อัตวินิจตระกูล นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชกรรมโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา กล่าว
ด้าน น.ส.บัณฑิตา ขาวบาง แม่ของเด็กกล่าวว่า ตนอยู่กินกับสามี มีลูกด้วยกัน 1 คน ก่อนหน้านั้นตนทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี หลังจากคลอดลูกสาวออกมา แพทย์ตรวจพบว่าลูกป่วยเป็นโรคหัวใจ จากนั้นสามีก็ได้ทิ้งตนไป ปล่อยให้ดูแลลูกเพียงลำพัง โดยไม่ยอมกลับมาดูแลตน และลูกที่กำลังป่วยอีกเลย ซึ่งตนมาเฝ้าดูแลลูกอยู่ที่โรงพยาบาลมานานกว่า 2 เดือนแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะเป็นแม่ของลูกมีความต้องการเพียงแค่ขอให้ลูกแข็งแรงขึ้น และแพทย์สามารถทำการผ่าตัดหัวใจ และรักษาลูกให้หายกลับมาเป็นเด็กที่ร่าเริงเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ซึ่งในวินาทีนี้ลูกเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตที่ต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป ตนจะทำทุกวิถีทางที่จะให้ลูกมีชีวิตที่ยืนยาวต่อไป เพราะเป็นสิ่งเดียวที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิตของตนในขณะนี้ และถึงแม้ตนจะไม่มีรายได้จากการทำงาน แต่คณะแพทย์โรงพยาบาลพหลฯ ก็ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งตนขอขอบคุณคณะแพทย์ทุกคนเป็นอย่างมาก รวมทั้งมูลนิธิโรคหัวใจเด็ก และคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ได้ช่วยเหลือเรื่องการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อจะได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ถึงแม้จะไม่เพียงพอแต่ตนก็รู้สึกซาบซึ้งในการที่ได้รับความช่วยเหลือจากทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากประชาชนท่านใดต้องการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ น.ส.บัณฑิตา กับลูกสาววัย 8 เดือน ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจรั่วตั้งแต่แรกคลอดที่ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ด.ญ.กรรณิกา หรือน้องทอง จะอยู่ลืมตาดูโลกได้อีกนานเท่าไหร่ ซึ่งคาดว่าวันจันทร์นี้ โรงพยาบาลพหลฯ ก็จะส่งตัวไปผ่าตัดหัวใจที่โรงพยาบาลเด็ก ที่กรุงเทพฯ และ น.ส.บัณฑิตา จะต้องเดินทางไปดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกน้อยเกิดความอบอุ่น สามารถโทร.ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-2292-2207 หรือบริจาคได้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาท่าม่วง หมายเลขบัญชี 724-0-20908-2 ชื่อบัญชี น.ส.บัณฑิตา ขาวบาง