ระยอง - สองตายายวัยกว่า 70 ปี พายเรือตกปลาหาเลี้ยงชีพ เกิดอุบัติเหตุเรือล่มในทะเลทำให้ตาเสียชีวิต ส่วนยายเกาะไม้พายว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งรอดตายหวุดหวิด
วันนี้ (6 พ.ย.) ร.ต.อ.วิรัตน์ ยอดเสาร์ ร้อยเวร สภ.เพ อ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งมีเหตุคนนั่งเรือไปตกปลาในทะเลเกิดเรือล่ม มีผู้สูญหายในทะเล 1 คน ที่บริเวณแหลมเกตุ (ก้นอ่าว) หมู่ 1 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง จึงรีบเดินทางไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชาติ ไชยบุญเรือง ผกก.สภ.เพ นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 นายมนตรี หามนตรี หัวหน้าฝ่ายปราบปรามศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด และมูลนิธิกู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง
ใกล้จุดเกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทาดำ ทะเบียน บค 712 ระยอง จอดอยู่ริมชายหาด ทราบภายหลังเป็นของผู้สูญหายในทะเล เจ้าหน้าที่ได้นำเรือ และนักประดาน้ำออกค้นหาผู้สูญหายในน้ำ ส่วนนางกิมเลี้ยง พุ่มศิริ อายุ 72 ปี เกาะไม้พายว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งรอดตายหวุดหวิด ส่วนผู้สูญหายในน้ำชื่อ นายณรงค์ พุ่มศิริ อายุ 74 ปี สามีของนางกิมเลี้ยง
นางกิมเลี้ยง เล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุพร้อมด้วย นายณรงค์ สามี นำเรือไฟเบอร์ลำเล็กออกไปตกปลาเลี้ยงชีพห่างจากฝั่งประมาณ 500 เมตร ได้เกิดเรือรั่วทำให้เรือจมตนได้เกาะไม้พายว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่งรอดตายหวุดหวิด ส่วนสามีจมหายไปพร้อมกับเรือ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สายตรวจอุทยานฯ เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรฯ และหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศลให้นักประดาน้ำงมหาร่างนายณรงค์ พุ่มศิริ ที่สูญหายไปในน้ำ แต่ยังไร้วี่แวว
พ.ต.อ.อภิชาติ ไชยบุญเรือง ผกก.สภ.เพ กล่าวว่า จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการเรือโดยสารรับส่งนักท่องเที่ยวข้ามไปเกาะเสม็ด เรือประมง และเรือตกปลา ต้องมีมาตรการให้สวมเสื้อชูชีพทั้งหมด ถ้าเรือลำใดไม่ใส่เสื้อชูชีพ เจ้าหน้าที่จะเริ่มกวดขันเอาจริง และไม่ให้ลงเรือโดยเด็ดขาด เพราะถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันจะเกิดความสูญเสีย และส่งผลกระทบภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง