ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- สุดสลด! เด็กชาย 9 ขวบ อ.พิมายโคราช อดคิดถึงพ่อไม่ไหว เดินฝ่าน้ำท่วม ลำพังถูกกระแสน้ำลำจักราชพัดจมหาย นักประดาน้ำระดมงมหาร่างพบกลายเป็นศพ ด้านแม่เด็กบอกมีลูกชายคนเดียวปิดเทอมฝากไว้กับตา ตัวเองกับสามีไปทำงานอีกหมู่บ้าน และเกิดน้ำท่วมถนนมาหาลูกไม่ได้ 2-3 วัน ทำให้ลูกคิดถึงเดินข้ามหมู่บ้านไปหาจนเกิดเหตุสลด
วันนี้ ( 2 พ.ย. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พ.ต.ท. อัมรินทร์ ถ่ายสูงเนิน สารวัตรเวรสภ.พิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านวังหิน ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ว่ามีเด็กถูกกระแสน้ำพัดจมหายไปในน้ำ เหตุเกิดบริเวณถนนสายบ้านวังหิน - บ้านวังกลาง ต.ในเมือง อ.พิมาย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ฮุก 31 ประจำจุดอำเภอพิมาย
ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังช่วยกันเดินลุยน้ำที่ท่วมถนนและบางส่วนลงไปค้นหาภายในบริเวณทุ่งนาบ้านวังหิน เพื่อค้นหาร่างของผู้ที่จมน้ำ คือ ด.ช.ณัฐวุฒิ ศรีบุญเรือง อายุ 9 ขวบ โดยชาวบ้านช่วยกันค้นหานานกว่า 1 ชั่วโมงยังไม่พบ เนื่องจากจุดที่จมน้ำอยู่กลางทุ่งนามีน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร จึงประสานขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำจากหน่วยกู้ภัย ฮุก 31 ประจำจังหวัดนครราชสีมา เพื่อนำอุปกรณ์มาช่วยค้นหา
ทั้งนี้ การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากจุดที่คาดว่าเด็กจมน้ำ อยู่ระหว่างถนนสายบ้านวังหิน - บ้านวังกลาง มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งถนนสายนี้ถูกน้ำท่วมขังสูงเกือบ 1 เมตรและกระแสน้ำไหลเชี่ยว รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ประกอบกับเป็นเวลากลางคืน ทำให้ยากลำบากต่อการค้นหา นักประดาน้ำต้องแบกอุปกรณ์ดำน้ำ เดินเท้าเข้าไปเกือบ 1 กิโลเมตร จึงไปถึงจุดเกิดเหตุ และใช้เวลาในการค้นหาประมาณ 20 นาที จึงพบศพเด็กชายคนดังกล่าว
จากการสอบถาม น.ส. นิตยา ศรีบุญเรือง อายุ 27 ปี แม่ของ ด.ช.ณัฐวุฒิ ผู้เสียชีวิต ให้การว่า ตนและสามี มีลูกชายเพียงคนเดียว คือ ด.ช. ณัฐวุฒิ เดือนที่แล้วซึ่งเป็นช่วงปิดเทอม ตนได้นำลูกชายมาฝากไว้กับตา ส่วนตนและสามี ต้องไปทำงานอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งปกติตนและสามีจะขับรถจักรยานยนต์มาหาลูกชายเป็นประจำ แต่ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ไม่ได้เข้าไปหา เนื่องจากถนนสายบ้านวังหิน-บ้านวังกลาง ซึ่งเป็นทางลัดไปหาลูกชาย ถูกน้ำจากลำจักราชเอ่อเข้าท่วมสูงจนรถไม่สามารถผ่านไปมาได้
“ช่วงเย็นที่ผ่านมาชาวบ้านบอกว่าได้ยินลูกชายพูดว่าคิดถึงพ่อ จะเดินไปหาพ่อที่ทำงานอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง และเคยพาลูกชายผ่านเส้นทางนี้ ทำให้ลูกชายแอบเดินออกมาจากบ้านของตาเพียงลำพัง เพราะไม่รู้ว่าน้ำท่วมสูง จนกระทั่งเดินมาถึงจุดที่น้ำไหลเชี่ยว กระแสน้ำได้พัดร่างลูกชายลอยไปกลางทุ่งนา ซึ่งขณะเกิดเหตุมีเพียงชาวบ้านที่พิการ เห็นเหตุการณ์ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ทำได้เพียงตะโกนเรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงให้มาช่วย แต่ก็ไม่ทันการ ทำให้ลูกจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว” น.ส. นิตยา กล่าว