เอเอฟพี - อุบัติภัยเรือเฟอร์รีชนกับเรือสินค้ากลางทะเลในฟิลิปปินส์ เหล่าประดาน้ำสามารถลงไปงมศพได้เพิ่มเติมในท่ามกลางท้องสมุทรที่มีคลื่นลมแรงเมื่อวันอาทิตย์ (18ส.ค.) ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตสูงขึ้นเป็นอย่างน้อยที่สุด 38 ศพ ในเวลาเดียวกันก็มีปัญหาใหม่เพิ่มเติมแทรกซ้อนเข้ามา นั่นคือน้ำมันจำนวนมากที่รั่วไหลออกจากเรือเฟอร์รีซึ่งจมลงใต้น้ำ
ตลอดทั้งวันอาทิตย์ ความพยายามในการกู้ภัยรวมศูนย์อยู่ที่ผู้คนมากกว่า 80 คนซึ่งยังสูญหาย และเชื่อกันว่าติดอยู่ภายในเรือเฟอร์รี “เซนต์โธมัส อะไควนัส” ที่จมลงใต้ท้องทะเลตั้งแต่คืนวันศุกร์ (16) ในบริเวณใกล้ๆ กับเมืองเซบู ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ ภายหลังชนเข้าอย่างจังกับเรือสินค้าลำหนึ่ง
มีผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัคนมากกว่า 800 คนอยู่ในเรือข้ามฟากระหว่างเกาะของฟิลิปปินส์ลำนี้ ซึ่งอัปปางลงภายในเวลา 10 นาทีหลังการปะทะกัน
“มีความเป็นไปได้ที่จะมีบริเวณซึ่งยังมีอากาศถูกขังอยู่เป็นจุดๆ ภายในส่วนต่างๆ ของเรือ และดังนั้นจึงยังอาจจะมีผู้รอดชีวิต” นาวาตรี เกรกอรี ฟาบิก โฆษกกองทัพเรือบอกกับเอเอฟพี พร้อมกับเสริมว่า ในเงื่อนไขแบบนี้คนเราอาจจะรอดชีวิตอยู่ได้ประมาณ 72 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งเวลาล่วงเข้าช่วงกลางคืนวันอาทิตย์ เหล่าประดาน้ำของกองทัพเรือและกองกำลังรักษาชายฝั่ง ก็ยังคงไม่สามารถเข้าไปถึงข้างในตัวเรือเฟอร์รีได้ เนื่องจากกระแสน้ำพัดแรงและคลื่นลมจัดคอยขัดขวางความพยายามของพวกเขา โดยที่สามารถหาศพผู้เสียชีวิตได้เพิ่มเติมจากบริเวณด้านนอกของเรือเท่านั้น
จำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการได้เพิ่มขึ้นเป็น 38 ศพในตอนเย็น จากที่ยืนอยู่ที่ 31 รายในตอนเช้า และพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบหลายรายให้ความเห็นอย่างระมัดระวังตัวว่า มีเปอร์เซนต์ต่ำที่จะค้นพบผู้รอดชีวิต
“เรายังคงมีความหวังกันอยู่ ถึงแม้คุณคงต้องยอมรับความเป็นจริงที่ว่าโอกาสของพวกเขาที่จะยังมีชีวิตอยู่นั้นต่ำเอามากๆ” นีล ซานเชส หัวหน้าสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติระดับภาค ซึ่งตั้งฐานอยู่ในเมืองเซบู บอกกับผู้สื่อข่าว
ขณะเดียวกัน จำนวนคนที่ถูกระบุว่าสูญหายอย่างเป็นทางการนั้น ได้ถูกปรับลดต่ำอย่างฮวบฮาบในวันอาทิตย์ นั่นคือเหลือ 82 คนจากที่ระบุในวันเสาร์ว่า 170 คน ทว่านี่ไม่ใช่เป็นผลมาจากการที่สามารถช่วยผู้รอดชีวิตรายใหม่ๆ ใดๆ โดยที่ซานเชสกล่าวว่า หลังจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาคราวนี้ได้ประชุมหารือกันแล้วก็มีการปรับตัวเลขให้ต่ำลงมาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบยังไม่สามารถระบุได้ว่า มีคนสักกี่คนกันแน่ที่อาจจะอยู่ภายในเรือเฟอร์รี ซึ่งจมอยู่ในน้ำระดับความลึกประมาณ 30 เมตร ด้วยเหตุนี้จึงยังเกิดความหวังกันว่า จำนวนผู้สูญหายนี้อาจจะมีการปรับลดลงอีกในเวลาต่อไป
ในเวลาเดียวกัน น้ำมันที่รั่วไหลออกจากเรือที่จมอยู่ ก็กำลังเพิ่มปัญหาใหม่ให้แก่การปฏิบัติการต่อสู้กู้ภัยคราวนี้ โดยที่น้ำมันเหล่านี้กำลังกระจายออกไปเป็นระยะทางไกลกว่า 5 กิโลเมตร และเข้าไปถึงหมู่บ้านชายฝั่งหลายแห่ง โดยยังไม่ต้องพูดถึงพื้นที่แหล่งประมง ตลอดจนเขตป่าชายเลน
“คุณสามารถมองเห็นมันกำลังไหลออกมาจากเรือที่จมอยู่ มันเป็นน้ำมันเตาและมันสีดำสนิท” เวเนียล อัซกูนา ผู้บังคับการกองกำลังรักษาชายฝั่งเซบู บอกกับเอเอฟพี
เจ้าหน้าที่รับผิดชอบหลายรายระบุว่า เรือเฟอร์รีลำนี้กำลังบรรทุกน้ำมันเตาปริมาณ 120,000 ลิตร เมื่อตอนที่จมลง นักประดาน้ำยังคงไม่สามารถเข้าไปถึงจุดที่รั่วเพื่อจะได้ทำการอุด