ประจวบคีรีขันธ์ - รอง ผบช.ภ.7 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุยิงบ้านแกนนำม๊อบยางฯ พบปลอกอาวุธสงครามอื้อ ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มหวาดกลัว พร้อมสั่ง จนท.ตั้งด่วนตรวจเข้มมากขึ้น ด้านแกนนำม๊อบยางฯ เตรียมเปิดถนนเพชรเกษม 2 ช่องทางการจราจรอำนวยควาสะดวกผู้ไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (1 พ.ย.56) นายทศพล ขวัญรอด ประธานเครือภาคีเครอข่ายชาวสวยยางพารา-ปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ที่ยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณถนนเพชรเกษม หมู่ 7 บ้านศรีนคร ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ ได้มีมติจากที่ประชุมนำฯ และได้ออกเป็นแถลงการณ์ฉบับที่ 10 โดยมีเนื้อหา 5 ข้อคือ
1.ยกระดับการชุมนุมที่บ้านศรีนคร เป็นการขับไล่รัฐบาล
2.เปิดเส้นทางการจราจรฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ 2 ช่องการจราจร
3.ทวงคืนจุดตรวจบริเวณบ้านธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน หลังเกิดเหตุยิงบ้านแกนนำ 3 ราย
4.ประนาม พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นบุคคลไม่พึงปราถณา และเป็นบุคคลอันตรายต่อความมั่นคง และไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชาวประจวบคีรีขันธ์
5.ยืนยันข้อเสนอเรียกร้องตามแถลงการณ์ฉบับที่ 9
นายทศพล กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างพูดคุยกับการด์ที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุม ถึงความจำเป็นและเหตุผลในการเปิดช่องทางการจราจรฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ และดำเนินการตัดเลื่อยไม้ที่กีดขวางผิวถนนเพชรเกษมออกไป เพื่อทำการเปิดช่องทางการจราจรให้ประชาชนได้เดินทางขึ้นกรุงเทพฯ และลงภาคใต้ และเพื่อให้ประชาชนจากภาคใต้เข้าไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯได้เกิดความสะดวก
นอกจากนั้น จะยังคงเวทีการปราศรัยที่บ้านศรีนคร อ.บางสะพานน้อย เอาไว้โดยปิดถนนเพชรเกษมฝั่งขาลงภาคใต้ และให้อิสละกับผู้ชุมนุม ในการที่จะเดินทางไปชุมนุมกับม๊อบต่างๆได้
ด้านนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการที่จะให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปช่วยเหลือและตัดต้นไม้เพื่อให้การเปิดการจราจร ได้ทันในช่วงก่อนค่ำวันนี้ก็พร้อมยินดีประสานการดำเนินการ
ต่ออมา พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7, พล.ต.ต.ฐเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.วิติพจน์ พจนาคม ผกก.สภ.บางสะพาน พ.ต.ท.สมบูรณ์ ตันติวรพิพัฒน์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน และกำลังตำรวจชุดกองร้อยควบคุมฝูงชนส่วนหนึ่งได้เดินทางเข้าไปดูบ้านของผู้ที่ถูกยิงจำนวน 4 หลัง และมีการปาระเบิดจนได้รับความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้นมีทั้งการใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าใส่โดยอยู่ระหว่างให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บรายละเอียดและพยานหลักฐานที่เป็นปลอกกระสุนได้แล้วกว่า 50 ปลอกต่างๆ เอาไว้
ส่วนที่มีการนำกล่องเหมือนระเบิดไปวางไว้บริเวณหน้าบ้านของกลุ่มผู้ชุมที่ได้ถูกยิงบ้านหลังหนึ่งนั้น ในส่วนนี้ได้ให้ทางตำรวจอีโอดี ของ ตชด.145 ไปเก็บและนำไปทำลายแล้ว พบเป็นการนำนาฬิกาเข้าไปว่างไว้เพื่อเป็นการข่มขู่เท่านั้น และไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด
พล.ต.ต.วิรัช กล่าวว่า ทางตำรวจจะต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การสืบหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้เป็นผู้ลงมือตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจแต่อย่างใด และทำไปแล้วก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด เพราะลักษณะตรวจสอบแล้วยิงจากถนนเพชรเกษมเข้าไปข้างในบ้าน ถือว่าเป็นการกระทำที่รุนแรง เพราะหากถูกเจ้าของบ้านหรือใครก็เสียชีวิตได้
"ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นบุคคลที่ 3 ที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนและให้เกิดการเข้าใจผิดหรือไม่อย่างไร ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ก็รุ้สึกหวาดกลัว ส่วนบ้านบางหลังที่เจ้าของบ้านไม่ให้เข้าไปตรวจสอบนั้น ผมก็ขอร้องให้เขาอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม คืนนี้ผมได้สั่งให้มีการเข้มงวดในเรื่องของการตั้งด่านจุดตรวจค้นบนเส้นทางเพชรเกษมให้เข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว"
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (1 พ.ย.56) นายทศพล ขวัญรอด ประธานเครือภาคีเครอข่ายชาวสวยยางพารา-ปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ที่ยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณถนนเพชรเกษม หมู่ 7 บ้านศรีนคร ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ ได้มีมติจากที่ประชุมนำฯ และได้ออกเป็นแถลงการณ์ฉบับที่ 10 โดยมีเนื้อหา 5 ข้อคือ
1.ยกระดับการชุมนุมที่บ้านศรีนคร เป็นการขับไล่รัฐบาล
2.เปิดเส้นทางการจราจรฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ 2 ช่องการจราจร
3.ทวงคืนจุดตรวจบริเวณบ้านธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน หลังเกิดเหตุยิงบ้านแกนนำ 3 ราย
4.ประนาม พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นบุคคลไม่พึงปราถณา และเป็นบุคคลอันตรายต่อความมั่นคง และไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชาวประจวบคีรีขันธ์
5.ยืนยันข้อเสนอเรียกร้องตามแถลงการณ์ฉบับที่ 9
นายทศพล กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างพูดคุยกับการด์ที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุม ถึงความจำเป็นและเหตุผลในการเปิดช่องทางการจราจรฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ และดำเนินการตัดเลื่อยไม้ที่กีดขวางผิวถนนเพชรเกษมออกไป เพื่อทำการเปิดช่องทางการจราจรให้ประชาชนได้เดินทางขึ้นกรุงเทพฯ และลงภาคใต้ และเพื่อให้ประชาชนจากภาคใต้เข้าไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯได้เกิดความสะดวก
นอกจากนั้น จะยังคงเวทีการปราศรัยที่บ้านศรีนคร อ.บางสะพานน้อย เอาไว้โดยปิดถนนเพชรเกษมฝั่งขาลงภาคใต้ และให้อิสละกับผู้ชุมนุม ในการที่จะเดินทางไปชุมนุมกับม๊อบต่างๆได้
ด้านนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการที่จะให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปช่วยเหลือและตัดต้นไม้เพื่อให้การเปิดการจราจร ได้ทันในช่วงก่อนค่ำวันนี้ก็พร้อมยินดีประสานการดำเนินการ
ต่ออมา พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7, พล.ต.ต.ฐเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.วิติพจน์ พจนาคม ผกก.สภ.บางสะพาน พ.ต.ท.สมบูรณ์ ตันติวรพิพัฒน์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน และกำลังตำรวจชุดกองร้อยควบคุมฝูงชนส่วนหนึ่งได้เดินทางเข้าไปดูบ้านของผู้ที่ถูกยิงจำนวน 4 หลัง และมีการปาระเบิดจนได้รับความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้นมีทั้งการใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าใส่โดยอยู่ระหว่างให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บรายละเอียดและพยานหลักฐานที่เป็นปลอกกระสุนได้แล้วกว่า 50 ปลอกต่างๆ เอาไว้
ส่วนที่มีการนำกล่องเหมือนระเบิดไปวางไว้บริเวณหน้าบ้านของกลุ่มผู้ชุมที่ได้ถูกยิงบ้านหลังหนึ่งนั้น ในส่วนนี้ได้ให้ทางตำรวจอีโอดี ของ ตชด.145 ไปเก็บและนำไปทำลายแล้ว พบเป็นการนำนาฬิกาเข้าไปว่างไว้เพื่อเป็นการข่มขู่เท่านั้น และไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด
พล.ต.ต.วิรัช กล่าวว่า ทางตำรวจจะต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การสืบหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้เป็นผู้ลงมือตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจแต่อย่างใด และทำไปแล้วก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด เพราะลักษณะตรวจสอบแล้วยิงจากถนนเพชรเกษมเข้าไปข้างในบ้าน ถือว่าเป็นการกระทำที่รุนแรง เพราะหากถูกเจ้าของบ้านหรือใครก็เสียชีวิตได้
"ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นบุคคลที่ 3 ที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนและให้เกิดการเข้าใจผิดหรือไม่อย่างไร ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ก็รุ้สึกหวาดกลัว ส่วนบ้านบางหลังที่เจ้าของบ้านไม่ให้เข้าไปตรวจสอบนั้น ผมก็ขอร้องให้เขาอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม คืนนี้ผมได้สั่งให้มีการเข้มงวดในเรื่องของการตั้งด่านจุดตรวจค้นบนเส้นทางเพชรเกษมให้เข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว"