xs
xsm
sm
md
lg

“เสี่ยเจ้าของอู่ซ่อมรถชื่อดังกาญจน์” เข้าวัดเตรียมบวชเกิดของขึ้นอาละวาดฟันพระเจ็บ 2 (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - เสี่ยเจ้าของอู่ซ่อมรถชื่อดังเมืองกาญจนบุรี เข้าวัดเตรียมบวชพระ เกิดของขึ้นอาละวาดทำลายข้าวของภายในวัดพังพินาศ เจ้าอาวาส และพระลูกวัด พร้อมทั้งโยมอีกกว่า 10 คนช่วยกันจับ แต่เอาไม่อยู่ พระโดนฟันเจ็บ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ กว่าจะเอาอยู่ทำวุ่นวายไปทั้งวัด

เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุมีชายเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของพังเสียหาย และใช้อาวุธมีดไล่ฟันแทงเจ้าอาวาส และพระลูกวัดบาดเจ็บ 3 รูป มูลนิธิได้นำพระลูกวัด 2 รูป มาเย็บบาดแผลที่ รพ.พหลฯ เหตุเกิดภายในวัดเขาท่าเสด็จ หมู่ 1 ซ.4 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ทราบชื่อคนก่อเหตุคือ นายอิทธิกร สุขเสริฐ อายุ 40 ปี เสี่ยเจ้าของอู่ซ่อมรถชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 6 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ

ที่โรงพยาบาลพหลฯ พบพระธรรมนิเวศ มาตย์นอก หรือพระเอก อายุ 43 ปี พระลูกวัด ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณศีรษะเหนือกกหูซ้าย คณะแพทย์จึงช่วยทำบาดแผล โดยเย็บถึง 11 เข็ม ส่วนพระอนุชา สิริวรรักษ์ หรือพระหนุ่ย อายุ 37 ปี ถูกอาวุธมีดฟันที่หน้าผาก แพทย์เย็บ 2 เข็ม คณะแพทย์อนุญาตให้กลับวัดได้ ส่วนพระปลัดกมล กมลโล อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสถูกของแข็งตีเข้าที่กลางศีรษะเป็นแผล ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และเจ็บที่บริเวณขาซ้ายเนื่องจากถูกตีเข้าซ้ำหลายครั้ง

ส่วนสถานการณ์ภายในวัด มีพุทธศาสนิกชนที่เดินทางไปทำบุญเป็นจำนวนมาก แต่ทุกคนไม่กล้าเข้าไปภายในวัด เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย เพราะชายคนดังกล่าวกำลังคลุ้มคลั่งอย่างหนัก นอกจากนี้ ยังพบว่ารถยนต์ตู้ของวัดที่จอดอยู่หน้าศาลการเปรียญ ถูกทุบจนกระจกซ้ายแตกละเอียด ใต้ท้องรถยนต์ตู้พบเตาแก๊สวางอยู่ ส่วนประตูหน้าศาลาการเปรียญพบเศษแก้วแตกเกลื่อนพื้น ขณะนี้ชายคนดังกล่าวได้ปิดประตูหน้าต่างของศาลาการเปรียญเอาไว้ กันไม่ให้ใครเข้าไป และมีการขว้างขวด และและสิ่งของทิ้งภายในศาลาการเปรียญ และขว้างออกมาข้างนอกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับอาการของนายอิทธิกร ทำท่าทางปฏิกิริยาเหมือนลิงลม เป่าปากเสียงดังคล้ายลิง และร้องโหยหวนอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังถอดเสื้อผ้าออกคงเหลือไว้เพียงกางเกงในสีดำตัวเดียว และนำผ้าสีดำที่มีอยู่มาทำหนวดเครา และผมยาวรุกรุงรัง ที่มือขวาได้นำมีดพระขันที่มีความแหลมคม ยาวประมาณ 1 ฟุต ใช้ผ้าผูกติดกับมือขวา และหากผู้ใดเข้าไปใกล้หน้าต่างประตูก็จะใช้ขวดน้ำ หรือขวดอาหารเสริมประเภทรังนกขว้างใส่ในทันที จึงไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปคุมตัว จนถึงขณะนี้เวลา 10.00 น. นายอิทธิกร ก็ยังมีอาการคลุ้มคลั่งอยู่

ทั้งนี้ มี พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจุดตรวจหนองหญ้า กำลังคุมสถานการณ์ และกันประชาชนไม่ให้เข้าไปใกล้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพหลฯ และเจ้าหน้าที่รถดับเพลิง อบต.หนองหญ้า ได้นำรถดับเพลิงไปเตรียมไว้เพื่อรอจังหวะฉีดพ่นน้ำใส่ให้เสียหลักหวังเข้าชาร์จคุมตัว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้

นางสุมาลี สุขเสริฐ อายุ 38 ปี ภรรยาเล่าว่า สามีเปิดอู่ซ่อมรถอยู่ที่ตำบลหนองขาว ชื่ออู่ช่างคิด ซ่อมเกี่ยวกับช่วงล่างรถยนต์ ปกติสามีเป็นคนดื่มเหล้า และจะอดเหล้าเข้าพรรษา 3 เดือนทุกปี และไม่เคยเกิดอาการคลุ้มคลั่งอย่างนี้มาก่อน อาการคลุ้มคลั่งเริ่มมีให้เห็นเมื่อวานนี้ ขณะทำงานอยู่ที่อู่ อยู่ๆ ก็เกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมา และทำร้ายตนจนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาว มาคุมตัวไปสงบสติที่โรงพัก จนกระทั่งอาการดีขึ้นจึงให้กลับบ้าน จากนั้นสามีบ่นกับตนว่าอยากบวช และขอไปบวชที่วัดเขาท่าเสด็จ เนื่องจากสนิทกับเจ้าอาวาส เพราะเจ้าอาวาสได้นำรถสองแถวรับส่งพระไปบิณฑบาตมาซ่อมที่อู่อยู่เป็นประจำ

ต่อมา วานนี้ (31 ต.ค.) ตนจึงพาสามีมาที่วัดเพื่อพบเจ้าอาวาส และเจ้าอาวาสได้จัดห้องเอาไว้ให้นอนค้างที่วัด เพื่อเตรียมตัวบวชพระในเช้าวันนี้ จนกระทั่งเวลาประมาณตี 5 ก็ได้รับแจ้งจากทางวัดว่า สามีเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของภายในวัด และใช้มีดไล่ฟันพระได้รับบาดเจ็บหลายรูป ตนจึงรีบเดินทางมาที่วัดเพื่อกล่อมให้สามีสงบสติอารมณ์ แต่ไม่สามารถทำได้ สามียิ่งเกิดอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนักโดยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ด้านพระปลัดกมล กมลโล อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสเล่าว่า เวลาประมาณตี 5 พระทุกรูปได้ออกไปบิณฑบาตตามปกติ จนกระทั่งเวลาประมาณ 6 โมงเช้า จึงกลับมาที่วัด และพบว่าข้าวของภายในวัดแตกกระจัดกระจาย นกกาที่เลี้ยงเอาไว้ในกรงก็ถูกฆ่าจนเสียชีวิต และพบว่า นายอิทธิกร สุขเสริฐ เจ้าของอู่ซ่อมรถที่กำลังเตรียมตัวจะบวช เกิดอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของอย่างไม่ได้สติ อาตมา และพระลูกวัด รวมทั้งชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้มาช่วยกันห้ามปราม แต่ไม่ยอมเชื่อจึงช่วยกันเข้าจับกุมตัวเอาไว้ ทั้งพระทั้งญาติโยมเกือบ 10 คนที่เข้าไปช่วยกัน แต่ไม่สามารถจับตัวได้

“ซึ่งทุกคนไม่รู้ว่านายอิทธิกร นั้นไปเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน ขนาดช่วยกันเอาไม้ตีเพื่อให้สลบ แต่นายอิทธกร กลับยืนให้ตีเฉยเลย และไม่มีอาการเจ็บปวดให้เห็น ขณะชุลมุนอยู่นั้นทุกคนไม่ทราบว่า นายอิทธิกร ไปเอามีดปลายแหลมมาจากไหน และได้ไล่ฟันแทงพระลูกวัดจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนอาตมาถูกมีดฟันเข้าที่กลางศีรษะเป็นแผลได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะเดียวกัน นายอิทธิกร ได้เกิดคลุ้มคลั่งหนักขึ้นโดยไปเอาถังแก๊สมาไว้ที่ใต้ท้องรถยนต์ตู้เพื่อจะเผาทำลายแต่ไม่มีไฟแช็ก หรือไม้ขีด และพระลูกวัดจึงได้เข้าไปช่วยกันจับตัวอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็สู้แรงคนเพียงคนเดียวไม่ได้ ซ้ำร้ายพระลูกวัดยังถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่ศีรษะ และกกหู ได้รับบาดเจ็บอีก 2 รูป จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว”

ล่าสุด เวลา 11.30 น. พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้เดินทางไปที่วัดเขาท่าเสด็จ เพื่อออกคำสั่งในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยตนเอง โดยมี พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่หน่วยผสม ชุดปราบจลาจลอีกจำนวนหลายนาย โดยมีทั้งโล่ กระบอง และอาวุธกระสุนปืนยาง เตรียมไปด้วย พล.ต.ต.ได้วางแผนเข้าคุมตัว โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูเหล็กศาลาการเปรียญเข้าไป จากนั้นให้รถดับเพลิงฉีดน้ำพ่นใส่เพื่อให้เสียหลักล้ม แต่นายอิทธิกร กลับไม่มีอาการสะดุดล้ม และยังได้วิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่เพื่อใช้อาวุธมีดทำร้ายร้าย เจ้าหน้าที่จึงระดมยิงกระสุนปืนยางจำนวนหลายนัดจนล้มลง แต่ก็ยังมีอาการคลุ้มคลั่งคล้ายลิงลงให้เห็นอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถคุมตัวเอาไว้ได้ จากนั้นจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพหลฯ เพื่อรักษาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่อาการคลุ้มคลั่งของนายอิทธิกร มีท่าทางและปฏิกิริยาเหมือนลิงลม ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างวิจารณ์ถึงท่าทางดังกล่าวไปต่างๆ นานา บางคนบอกว่า นายอิทธิกร อาจจะเป็นคนเล่นของ หรือไปสักยันต์น้ำมันของลิงลม และอาจจะไปบนบานอะไรเอาไว้ เมื่อสำเร็จแล้วไม่ได้ไปแก้เคล็ดตามที่บนเอาไว้จึงทำให้ย้อนเข้าตัว

คลิกเพื่อชมคลิป 1



คลิกเพื่อชมคลิป 2





กำลังโหลดความคิดเห็น